chat

โรคแอนแทรกซ์ (ANTHRAX)


จากรายงานของอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ถึงกรณีพบผู้เสียชีวิตด้วยโรค แอนแทรกซ์ในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งชาวบ้านชําแหละเนื้อโคบริโภคกันในงานบุญ หลังจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และทีมปศุสัตว์ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคเบื้องต้นพบผู้สัมผัสและผู้บริโภคนับร้อยคน จึงอยู่ระหว่างดำเนินมาตรการป้องกันการควบคุมโรคในพื้นที่ ส่งผลให้ประชาชนทั่วไปตื่นตัวกับการบริโภคเนื้อวัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเนื้อวัวดิบ หรือกึ่งสุกกึ่งดิบที่ยังคงมีวัฒนธรรมการบริโภคอาหารจากเนื้อวัวเหล่านี้ในหลายพื้นที่ จึงมีความเสี่ยงป่วยเป็นโรคแอนแทรกซ์ แน่นอนว่า การทานอาหารปรุงสุกและสะอาด ถือเป็นแนวทางการบริโภคอาหารที่ดีที่สุด เพื่อเลี่ยงคามเสี่ยงเกิดโรคและรักษาสุขอนามัย หากสงสัยว่าท่าน หรือสัตว์เลี้ยงของท่าน มีความเสี่ยงหรือสัมผัสเชื้อแอนแทรกซ์ ควรไปพบแพทย์รายงานให้บุคลากรทางสาธารณสุขทราบ

โรคแอนแทรกซ์ (ANTHRAX) คืออะไร?
สาเหตุของโรคแอนแทรกซ์
อาการของโรคแอนแทรกซ์
การวินิจฉัยโรคแอนแทรกซ์
แนวทางการรักษาโรคแอนแทรกซ์
แนวทางการป้องกันโรคแอนแทรกซ์
Q&A หลากคำถาม มีคำตอบ เกี่ยวกับโรคแอนแทรกซ์

โรคแอนแทรกซ์ (ANTHRAX) คืออะไร?

โรคแอนแทรกซ์

โรคแอนแทรกซ์ (ANTHRAX) หรือชาวบ้านเรียกว่าโรคกาลี เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียแบบเฉียบพลันจากสัตว์สู่คน เกิดจากเชื้อบาซิลัส แอนทราซิส (Bacillus anthracis) ระยะฟักเชื้ออยู่ระหว่าง 12 ชั่วโมง ถึง 7 วัน แต่ถ้าเป็นกรณีสูดหายใจเอาสปอร์ของเชื้อจากการใช้เป็นอาวุธชีวภาพ ระยะฟักตัวอาจยาวนานถึง 60 วัน เชื้อนี้ก่อให้เกิดโรคในคน 3 แบบ คือ ที่ผิวหนังจากการสัมผัส, ที่ปอดจากการสูดดม และที่ทางเดินอาหารจากการกินเชื้อนี้เข้าไป ขึ้นกับช่องทางการติดเชื้อ โดยสปอร์ของเชื้อมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและสามารถก่อให้เกิดโรคได้แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี แหล่งรังโรค คือ สัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ สามารถแพร่เชื้อสู่คนได้โดยตรงจากการสัมผัสหนังหรือขนกับสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น การชำแหละเนื้อสัตว์ การบริโภคเนื้อสัตว์ดิบหรือปรุงไม่สุก แต่โดยทั่วไปแอนแทรกซ์จะไม่ติดต่อจากคนสู่คน

สาเหตุของโรคแอนแทรกซ์

โรคแอนแทรกซ์

คนติดโรคจากการสัมผัสสัตว์ป่วยหรือสัมผัสกับผลิตภัณฑ์สัตว์ที่มาจากสัตว์ป่วย กลุ่มเสี่ยงที่เป็นโรคนี้พบมากในผู้ที่มีอาชีพเกษตรกรรม คนชำแหละเนื้อในโรงเชือด สัตวแพทย์ ปศุสัตว์ คนงานในฟาร์ม หรือผู้ที่ใกล้ชิดกับสัตว์ป่วย อาจติดโรคโดยการหายใจเอาสปอร์ของเชื้อเข้าไป โดยสปอร์ติดอยู่ตามฝุ่นละออง ขนสัตว์ หนังสัตว์ สปอร์ของเชื้อสามารถเข้าร่างกาย ทั้งการหายใจ แผลที่ผิวหนัง ดื่มน้ำ หรือกินอาหารที่ปนเปื้อน โดยเฉพาะนมที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ หรืออาหารสุกดิบ นอกจากนี้ ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์จึงมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากสัมผัสกับสัตว์โดยตรง

อาการของ โรคแอนแทรกซ์

อาการทั่วไป หลังได้รับเชื้อประมาณ 1-5 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องรุนแรง แต่หากจำแนกตามประเภทของการติดเชื้อที่ผิวหนัง ทางเดินหายใจ และทางเดินอาหาร จะแตกต่างกัน ดังนี้

โรคแอนแทรกซ์ผิวหนัง (Cutaneous anthrax) มีอาการคันบริเวณที่สัมผัสเชื้อ เกิดตุ่มแดงแล้วกลายเป็นตุ่มพองมีนํ้าใส ภายใน 2-6 วัน จะเริ่มยุบตรงกลางเป็นเนื้อตายสีดำคล้ายแผลบุหรี่จี้ แผลมักพบบริเวณศีรษะและลำคอ

โรคแอนแทรกซ์

โรคแอนแทรกซ์ทางเดินหายใจ (Inhalational anthrax) มีอาการคล้ายติดเชื้อของระบบหายใจส่วนบนที่ไม่รุนแรง เช่น มีไข้ ปวดเมื่อยเนื้อตัวไอเล็กน้อย หรือเจ็บหน้าอก ต่อมาจะเกิดการหายใจขัดอย่างเฉียบพลัน เกิดภาวะออกซิเจนลดตํ่าลง เหงื่อออกมาก และเสียชีวิตจากอาการของระบบหายใจล้มเหลวในช่วงเวลาเพียง 3-5 วัน หลังรับเชื้อ อัตราการป่วยตายของผู้ป่วยแบบนี้จะสูงมากถึงร้อยละ 80-90

โรคแอนแทรกซ์

โรคแอนแทรกซ์ทางเดินอาหาร (Gastrointestinal anthrax) เกิดการอักเสบบริเวณลำไส้ บวมนํ้า มีนํ้าในช่องท้องมาก หากเกิดอาการเลือดเป็นพิษ จะเพิ่มความเสี่ยงเสียชีวิตมากขึ้น

การวินิจฉัยโรคแอนแทรกซ์

การวินิจฉัยทำได้ด้วยการวัดแอนติบอดีหรือระดับพิษในเลือด หรือตรวจแบคทีเรียบาซิลัส แอนทราซิสจากเลือด ผิวหนังที่มีรอยโรค น้ำไขสันหลัง เสมหะ สิ่งขับถ่าย หรือน้ำในปอด โดยหากเก็บสิ่งส่งตรวจก่อนให้ยาปฏิชีวนะ จะทำให้มีโอกาสสามารถพบเชื้อได้มากขึ้น

แนวทางการรักษาโรคแอนแทรกซ์

รักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ได้แก่ เพนนิซิลิน ด๊อกซีไซคคลิน หรือกลุ่มควิโนโลน บางรายอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะหลายขนานหากมีอาการรุนแรง เช่น ติดเชื้อในเยื่อหุ้มสมอง ผู้ป่วยบางรายแม้ว่าจะฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้แล้ว แต่พิษจากเชื้ออาจยังมีผลรุนแรงจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ

แนวทางการป้องกันโรคแอนแทรกซ์

หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์เคี้ยวเอื้องจำพวกโค กระบือ แพะ แกะ

หากมีการสัมผัสกับขนหรือผิวหนังสัตว์ควรล้างมือทำความสะอาดร่างกาย สวมอุปกรณ์ป้องกันเมื่อต้องสัมผัสสัตว์หรือซากสัตว์ เช่น ถุงมือ หน้ากาก เสื้อคลุมกันเปื้อน

เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัย หลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์แบบดิบ กึ่งสุกกึ่งดิบ หรือไม่ผ่านความร้อน

ผู้ที่สัมผัสเชื้อแล้ว แต่ยังไม่ปรากฏอาการ แพทย์จะแนะนำให้กินยาป้องกันหลังสัมผัส เป็นยาปฏิชีวนะด๊อกซีไซคคลิน หรือกลุ่มควิโนโลน นานถึง 60 วัน

ฉีดวัคซีนให้แก่โค กระบือ แพะ แกะ ที่อายุตั้งแต่ 14 สัปดาห์ขึ้นไป และฉีดซ้ำทุกปี

กรณีเป็นผู้เลี้ยง หากสัตว์ป่วยซึม ไม่กินอาหาร ขาบวม ท้องโต ให้แยกออกจากฝูงแล้วรักษาและให้ติดตามเฝ้าระวังสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด หากพบสัตว์ป่วยตายผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที ห้ามเคลื่อนย้าย ผ่าซาก หรือชำแหละเนื้อ หรือหนังสัตว์ที่ตายและระวังไม่ให้สัตว์อื่น เช่น สุนัข แมว ไปกินซากสัตว์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

หลากคำถาม มีคำตอบ เกี่ยวกับโรคลิชมาเนีย "โรคแอนแทรกซ์"

ถาม ตอบ

อาการแทรกซ้อนอื่น ๆ จากโรคแอนแทรกซ์?

อาจพบการติดเชื้อในกระแสเลือด มีไข้สูง ช็อกหมดสติ ติดเชื้อในเยื่อหุ้มสมอง หรือมีอาการทางสมอง คือ ปวดหัว สับสน กระวนกระวาย

ถาม ตอบ

โรคแอนแทรกซ์มีวัคซีนฉีดป้องกันหรือไม่?

การฉีดวัคซีนแอนแทรกซ์เดิมมีให้ใช้ได้เฉพาะบางกลุ่มที่มีความเสี่ยง เช่น ในค่ายทหาร หรือในห้องปฏิบัติการ แต่ต่อมามีการขยายการใช้ในผู้ที่สัมผัสเชื้อที่สงสัยว่าเป็น หรือมีอาการแสดง และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคแล้ว ในประเทศสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, รัสเซีย, จีน แต่วัคซีนป้องกันโรคแอนแทรกซ์ในคนยังไม่มีใช้ในประเทศไทย

บทความโดย นพ.เอกวิทย์ เกวลินสฤษดิ์