chat

โรคพยาธิ


หลายคนมีพฤติกรรมชอบทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ไม่สะอาด ไม่ใส่ใจกับสุขอนามัยในการบริโภค จึงเกิดโรคพยาธิตามมาจากการปนเปื้อนในอาหารและน้ำดื่ม แม้จะเป็นโรคที่พบไม่บ่อยเหมือนโรคติดเชื้อชนิดอื่นๆ แต่ก็ทำให้เกิดอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ ขนาดของไข่พยาธิบางครั้งเล็กจนตาเปล่ามองไม่เห็น อาศัยอยู่ทั้งในพื้นดินและในน้ำ สามารถมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมได้ 2-3 สัปดาห์ หรือนานเป็นปี หากปรากฏอาการผิดปกติที่สงสัยว่าอาจมีพยาธิในร่างกายควรมาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาตามอาการต่อไป

‘พยาธิ’ คืออะไร?
พยาธิเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไร?
อาการแสดงต่างๆ จากการได้รับพยาธิแต่ละชนิดจะแตกต่างกันไป
แนวทางการวินิจฉัยชนิดของพยาธิ
แนวทางการรักษาโรคพยาธิ
แนวทางการป้องกันโรคพยาธิ
Q&A หลากคำถาม มีคำตอบ เกี่ยวกับโรคพยาธิ

‘พยาธิ’ คืออะไร?

พยาธิ คือ สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์และสัตว์ คอยแย่งอาหาร หรือดูดเลือด ตัวพยาธิสามารถเพิ่มจำนวนและเป็นอันตราย ทำให้ร่างกายทรุดโทรม มีอาการแพ้ต่อสารที่ขับออกมาจากตัวพยาธิ ทำลายสุขภาพจิต เป็นอัมพาต ฯลฯ

พยาธิเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไร?

ทางปาก ด้วยการทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีไข่หรือตัวอ่อนของพยาธิในระยะติดต่อ เช่น พยาธิไส้เดือน พยาธิแส้ม้า พยาธิตัวตืด พยาธิใบไม้ตับ พยาธิใบไม้ลำไส้บางชนิด พยาธิตัวจี๊ด พยาธิใบไม้ปอด และพยาธิหอยโขง

โรคพยาธิ

ทางผิวหนัง จากการไชของพยาธิในระยะติดต่อเข้าทางผิวหนังโดยตรง ได้แก่ พยาธิปากขอ พยาธิเส้นด้าย พยาธิตัวจี๊ด พยาธิสตรองจิลอยด์ ฯลฯ

โรคพยาธิ

ทางสายรกในครรภ์ เช่น พยาธิตัวจี๊ด

ทางจมูก โดยการหายใจเอาไข่ของพยาธิในระยะติดต่อเข้าไป เช่น ไข่ของพยาธิเข็มหมุด

อาการแสดงต่างๆ จากการได้รับพยาธิแต่ละชนิดจะแตกต่างกันไป

พยาธิไส้เดือน

โรคพยาธิ

พบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่และมีอาการรุนแรงกว่าในผู้ใหญ่ เพราะมีพยาธิในลำไส้เป็นจำนวนมาก มีอาการปวดท้อง อาเจียน หิวบ่อย ทานอาหารมากแต่น้ำหนักลด เกิดภาวะซีด เป็นลมพิษเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ

พยาธิแส้ม้า

โรคพยาธิ

การติดต่อของพยาธิเเส้ม้าจะคล้ายคลึงกับของพยาธิไส้เดือนกลม คนติดโรคโดยการกินไข่พยาธิระยะติดต่อ ที่ปนเปื้อนเข้าไปกับอาหาร น้ำดื่ม หรือที่ติดมากับเเมลงวันที่ตอมอาหาร ในเด็กเล็กที่ชอบเล่นคลุกคลีกับดิน อาจกินไข่พยาธิที่ติดมากับมือเข้าไปโดยตรง พบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ มีอาการปวดท้อง เห็นเป็นก้อนเนื้อแดงโผล่ออกมาข้างนอกทวารหนักหรืออาจเห็นตัวพยาธิออกมาด้วย

พยาธิตัวจี๊ด

อาศัยอยู่ในกระเพาะอาหารและในช่องท้อง แล้วกระจายไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ใต้ผิวหนัง ปอด ตา หู สมอง ไขสันหลัง ทำให้เกิดการอักเสบและเป็นอันตรายตามอวัยวะต่างๆ จนอาจเสียชีวิตได้ พบบ่อยในคนที่มีประวัติชอบทานอาหารดิบจำพวกลาบก้อยหมู กุ้งเต้น พล่าปลาดิบ ยำเนื้อดิบ แสดงอาการผิวหนังมีรอยบวมแดง คัน ปวดจี๊ดตามตำแหน่งที่พยาธิเคลื่อนที่ไป

โรคพยาธิ

พบความผิดปกติในร่างกาย เช่น หิวบ่อย ทานอาหารมากแต่น้ำหนักลด ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย เจ็บและบวมตามผิวหนัง เจ็บแน่นหน้าอก ไอเป็นเลือด แพ้และมีผื่นคันหรือเป็นแนวแดง ๆ บนผิวหนัง มีตุ่มนูนจำนวนมากขึ้นตามผิวหนัง เป็นไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว ฯลฯ อย่างไรก็ตามอาการจะขึ้นอยู่กับชนิด ขนาด จำนวน และตำแหน่งที่พยาธิอาศัยอยู่ รวมไปถึงระยะเวลาในการเป็นโรคว่านานเท่าไร ถ้าไชขึ้นสมอง จะเจริญเติบโตและเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการอักเสบของสมองและเยื่อหุ้มสมอง ผู้ป่วยจะมีจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิดอีโอสิโนฟิล (eosinophil) ขึ้นสูงในน้ำไขสันหลัง ผู้ป่วยบางรายอาจหมดสติได้, ถ้าไชเข้าไขสันหลังจะทำให้ปวดตามแขนขา ปัสสาวะไม่ออก ท้องผูก, ถ้าไชเข้าตา ตาจะอักเสบ บวม และตาบอดได้, ถ้าไชเข้าปอด จะทำให้ปอดอักเสบ ไอเป็นเลือด หรือถ้าไชเข้าท้อง จะปวดท้องรุนแรง จุกเสียด แน่นท้อง

พยาธิตัวตืด

โรคพยาธิ

มีทั้งพยาธิตืดวัวและหมู แต่พยาธิตืดหมูจะอันตรายกว่า เพราะถ้ารับประทานไข่ของพยาธิตัวตืดหมู ตัวอ่อนจะฟักออกมาแล้วเข้าสู่กระแสเลือดไปอยู่ตามเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย อาจอยู่ในกล้ามเนื้อและสมองจนเกิดตุ่มเล็กฝังอยู่ใต้ผิวหนังทั่วร่างกาย หรือถ้าไปอยู่ในสมอง จะทำให้ชัก ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ส่วนตัวอ่อนของพยาธิตัวตืดวัวที่ฟักออกมาจะตายไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด อาการทั่วไปที่พบ คือ คลื่นไส้ ปวดท้อง อ่อนเพลีย น้ำหนักลด หิวบ่อย เกิดลมพิษ คัน ฯลฯ

พยาธิใบไม้

โรคพยาธิ

มีหลากหลายชนิด ทั้งพยาธิใบไม้ในตับ ในลำไส้ ในเลือด และในปอด พบได้ในปลาน้ำจืดดิบ กุ้งดิบ ปูดิบ หอยน้ำจืด พืชน้ำจำพวกผักกระเฉด กระจับ สายบัว ผักบุ้ง ติดต่อโดยการทานอาหารที่ปนเปื้อนตัวอ่อน ก่อนไชเข้าสู่ผิวหนังโดยตรง อาการแสดงกรณีพยาธิใบไม้ตับ ได้แก่ ท้องอืดคล้ายอาหารไม่ย่อย ร้อนบริเวณตับใต้ชายโครงขวาหรือลิ้นปี่ ท่อน้ำดีอักเสบแทรกซ้อน มีไข้ ดีซ่าน , ส่วนอาการแสดงกรณีพยาธิใบไม้ในลำไส้ ผู้ป่วยมีอาการท้องเดินสลับท้องผูก เสียดท้อง ท้องอืด ลำไส้อุดตัน อาหารไม่ย่อย ถัดมาอุจจาระจะมีสีเขียวหยาบ กลิ่นเหม็น คลื่นไส้ อาเจียน มีน้ำในช่องท้อง บวมทั้งตัวเนื่องจากสารพิษที่พยาธิขับออกมาก, อาการแสดงของพยาธิใบไม้ในปอด ผู้ป่วยจะมีอาการปวด บวม ไอเรื้อรัง เสมหะมีเลือดปน เจ็บหน้าอก หนาวสั่น เหงื่อออกตอนกลางคืน หอบ เหนื่อยง่าย วิงเวียนศีรษะ, อาการแสดงของพยาธิใบไม้ในเลือด อาการแสดงหลัก ได้แก่ มีไข้ ลมพิษ ปวดท้อง อุจจาระมีมูก หรือเลือดปน ตับและม้ามโต ผู้ป่วยบางรายมีภาวะหลอดลมอักเสบร่วมด้วย

แนวทางการวินิจฉัยชนิดของพยาธิ

ตรวจอุจจาระ หรือตรวจเลือด หากพบเม็ดเลือดขาวปริมาณสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเม็ดเลือดขาวชนิด อิโอซิโนฟิลล์ (Eosinophil) อาจบ่งบอกว่ามีการติดเชื้อพยาธิในร่างกายได้

แนวทางการรักษาโรคพยาธิ

หากมีพยาธิในร่างกาย แพทย์มักจะให้ยาถ่ายพยาธิแบบรับประทานเพื่อกำจัดพยาธิชนิดนั้น ๆ เช่น ยาอัลเบนดาโซล มีเบนดาโซล และยาพิเพอราซีน ฯลฯ บางกรณีที่พยาธิแพร่กระจายมาก หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น เชื้อพยาธิขึ้นสมองหรือดวงตา เกิดการอักเสบที่ลำไส้ ตับ ปอด หรือลำไส้อุดตัน แพทย์อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด เช่น กรณีของการติดเชื้อพยาธิปอดหนู พยาธิตัวจี๊ด หรือพยาธิไส้เดือน

แนวทางการป้องกันโรคพยาธิ

ดื่มน้ำสะอาด ทานอาหารสุก ไม่ทานเนื้อดิบหรืออาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ

ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารและหลังใช้ห้องสุขา

ล้างวัตถุดิบจำพวกเนื้อสัตว์และผักผลไม้ให้สะอาดก่อนนำมาปรุงอาหาร

สวมรองเท้าทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน

ถ่ายอุจจาระในสุขาที่ถูกสุขลักษณะเป็นประจำ

Q&A หลากคำถาม มีคำตอบ เกี่ยวกับ"โรคพยาธิ"

ถาม ตอบ

พยาธิมีทั้งหมดกี่ชนิด?

พยาธิตัวกลม ได้แก่ พยาธิไส้เดือน พยาธิปากขอ พยาธิเส้นด้าย พยาธิแซ่ม้า พยาธิตัวจี๊ด พยาธิเท้าช้าง

พยาธิตัวตืด พยาธิชนิดนี้ลำตัวจะแบนและเป็นปล้อง ได้แก่ พยาธิตืดหมู พยาธิตืดวัว พยาธิตืดแคระ

พยาธิใบไม้ พยาธิชนิดนี้มีลักษณะลำตัวแบนแต่ไม่เป็นปล้อง ได้แก่ พยาธิใบไม้ในเลือด

ถาม ตอบ

สามารถซื้อยาถ่ายพยาธิมาทานเองได้ไหม?

ไม่ควรหาซื้อยาถ่ายพยาธิมาทานเองเพราะพยาธิแต่ละชนิดใช้ยากำจัดแตกต่างกัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อซักถามประวัติอาการก่อนทานยา

บทความโดย นพ.ชวลิต หล้าคำมี

เกร็ดความรู้

เพิ่มเติม