chat

เทคนิคกินบุฟเฟ่ต์ให้คุ้มแบบขั้นเทพ!


“อาหารบุฟเฟ่ต์” ปัจจุบันมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน มีกระแสความนิยมเพิ่มขึ้นจนบางร้านต้องรอคิวกว่าชั่วโมงเพื่อเข้ารับประทาน เหตุนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่า “บุฟเฟ่ต์” ได้เข้ามาเป็นวัฒนธรรมการบริโภคของสัมคมไทยไปแล้ว การเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลต่าง ๆ หรือช่วงเวลาอันแสนมีความสุขบุฟเฟ่ต์ก็จะเป็นอาหารอันดับต้น ๆ ที่ผู้คนนิยมเลือกรับประทาน โดยการกินบุฟเฟ่ต์ส่วนใหญ่มักจะคิดถึงความคุ้มทุนโดยจะพยายามกินอาหารปริมาณมาก หรือเลือกกินอาหารราคาแพง เพื่อจะให้คุ้มค่ากับราคา วันนี้เราจึงมีเทคนิคการกินปุฟเฟต์ให้คุ้มแบบง่าย ๆ มาฝากกันค่ะ

  1. เตรียมตัวขยายกระเพาะไว้ล่วงหน้า กระเพาะก็เป็นเหมือนอวัยวะที่มีความยืดหยุ่นและสามารถขยายตัวได้หลายเท่า หากมีแพลนล่วงหน้าว่าจะไปทานบุฟเฟ่ต์เร็ว ๆ นี้ เราสามารถขยายขนาดกระเพาะเพื่อเตรียมความพร้อมได้โดยการ ทานอาหารมื้อใหญ่ ๆ หนัก ๆ ปริมาณมากกว่ามื้อปกติ ให้กระเพาะและร่างกายคุ้นชิน แนะนำให้ทานอาหารที่ย่อยง่าย มีกากใยสูง เช่น แป้ง ผัก ผลไม้ และเนื้อปลา จะสามารถทำให้กระเพาะขยายได้ โดยไม่ต้องทำงานหนัก

2. ห้ามอดอาหารเด็ดขาดนะคะ เพราะสิ่งที่คนเข้าใจผิดมากที่สุดในการกินจุ คือ ต้องอดอาหารเพื่อให้รู้สึกหิวมาก ๆ โหยมาก ๆ จะได้กินได้เยอะ ๆ มันเป็นความเชื่อที่ผิดมาก ๆ เลยค่ะ เพราะการอดอาหารตลอดทั้งวัน จะทำให้กระเพาะบีบตัวเล็กลง ไม่ถูกกระตุ้นให้พร้อมสำหรับการทำงาน ทำให้กินได้น้อยลง กินได้ไม่เต็มที่

  3. มื้อเย็นแล้วเจอกัน หลายคนคงเคยสงสัย ว่าทำไม? กินอาหารเช้าได้น้อย กินไม่ค่อยลง แต่พออาหารเย็นดันกินได้กินดี ผลวิจัยจากสถาบันส่งเสริมสุขภาพของฝรั่งเศส ร่วมกับศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ ชี้ให้เห็นว่า มื้อเย็น คือช่วงที่กระเพาะถูกกระตุ้นและใช้งานมาตลอดทั้งวัน จึงพร้อมเต็มสปีดสำหรับการทำงาน ก็ไม่ต้องแปลกใจเลยนะคะ ว่าทำไมมื้อเย็นของหลาย ๆ คนถึงได้จัดหนักจัดเต็มแบบสุด ๆ

4. พยายามดื่มน้ำน้อย ๆ เพราะน้ำ คืออุปสรรคที่ทำให้อิ่มไวและท้องอืดได้ ถ้ารู้สึกกระหายน้ำจริง ๆ แนะนำให้พยายามจิบ ๆ แบบผู้ดี ให้พอได้ดับกระหายเท่านั้นนะคะ

  5. น้ำเปล่าหรือชาจืด ๆ เหมาะที่สุด หลาย ๆ คนคงเคยสังเกตเห็นร้านบุฟเฟ่ต์บางร้าน ไม่มีเสิร์ฟน้ำเปล่าในเมนูบุฟเฟ่ต์ แต่จะแทนที่ด้วยน้ำหวาน น้ำอัดลมซึ่งมีต้นทุนที่แพงกว่า อย่าไปหลงนึกว่าทางร้านใจปล้ำ แต่เพราะการดื่มน้ำหวานจะทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดพุ่ง สมองจะสั่งการทำให้เกิดความรู้สึกอิ่ม ง่วงได้ง่าย แนะนำให้จิบชาแบบที่ไม่มีน้ำตาล เพราะสามารถช่วยในการย่อยอาหาร + ลดการดูดซึมไขมันได้อีกด้วย

6. หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง, ขนมปัง, ข้าว, แป้ง, ขนมปัง, เส้นเล็ก, เส้นใหญ่, อุด้ง, ราเม็ง ฯลฯ อาหารจำพวกแป้งเหล่านี้จะอืดในกระเพาะเมื่อโดนน้ำ แถมยังย่อยเป็นน้ำตาลได้ไวกว่าเนื้อสัตว์ จึงอาจทำให้รู้สึกอิ่มและง่วงได้

  7. ค่อย ๆ กินไล่รสชาติ จาก อาหารรสชาติอ่อน-อาหารรสชาติจัด อาหารรสจัดมักจะมีโซเดียมสูง การกินจากอาหารรสจัดจ้านก่อนจะส่งผลให้เราหิวน้ำมาก เค็มปาก ต้องดื่มน้ำตามเยอะ ทำให้อืดและอิ่มไว สถาบันจากฝรั่งเศส ได้ทำการวิจัยว่า "เมื่อระดับโซเดียมในร่างกายขึ้นสูง ความอยากอาหารจะน้อยลง" ดังนั้น สเต็ปการกินอาหารบุฟเฟ่ต์จึงควรจะเริ่มจากอาหารรสชาติอ่อนก่อนเสมอ

8. ของหวานต้องกินหลังสุด ไม่ใช่ว่าห้ามไปเลยนะคะ แต่แนะนำให้ทานทีหลัง เพราะน้ำตาลน่ากลัวกว่าไขมันตรงที่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้แทบจะทันที ระดับน้ำตาลสูงจะทำให้สมองสั่งการให้รู้สึกอิ่ม ดังนั้น ขนมหวานต้องทานท้ายสุดเท่านั้นนะคะ

  9. กินคำเล็ก ๆ เคี้ยวละเอียด ๆ ไม่ต้องรีบกิน การกินคำใหญ่ ๆ กินเร็ว ๆ นอกจากจะทำให้เกิดการจุกเสียด แน่นเฟ้อได้ง่าย ยังสร้างภาระหนักให้กับกราม และกระเพาะ ย่อยยาก ท้องอืด

10. กินอาหารให้หลากหลาย เลือกกินให้หลากหลายรสชาติ เปลี่ยนน้ำจิ้มบ้าง ไม่จำเจ จะทำให้เรากระชุ่มกระชวย เพิ่มความอยากอาหารได้มากขึ้นเลยทีเดียวค่ะ

11. หลีกเลี่ยงของกินยาก ยกตัวอย่างเช่น กุ้งย่าง ปูย่าง หอยแครง หอยแมลงภู่ ปลาทูแม่กลอง แค่ย่างให้สุกก็เสียเวลาแล้ว กว่าจะหายร้อน กว่าจะแกะเอาเนื้อออกมาเสียเวลามาก ๆ เลยค่ะ

12. อย่าหยุดทาน เด็ดขาด ไม่ว่าจะยังไง "อาหารขาดตอน บั่นทอนอารมณ์ในการกิน "เมื่อหยุดพักกินอาหารกลางทาง สมองจะสั่งการให้เริ่มรู้สึกอิ่ม ดังนั้นเทคนิคการกินจึงไม่ควรกินเร็วจนเกินไป รักษาจังหวะไว้ค่อย ๆ กินเรื่อย ๆ

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นอาหารบุฟเฟ่ต์ หรืออาหารทั่วไปก็ตามหากกินมากเกินไป ก็สามารถทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้มากมายเลยนะคะ ความคุ้มค่าของราคาและปริมาณ อาจเทียบไม่ได้กับค่ารักษาพยาบาลที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นกินอย่างพอดี เสริมกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพที่ดีกันนะคะ