chat

หลอดไฟ…ก็ทำให้ผิวตกกระได้


  ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่า สมัยนี้เราใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับการนั่งทำงานในออฟฟิศ ติดอยู่กับการนั่งดูมือถือ ติดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ถึงแม้จะไม่ได้ออกนอกห้อง อยู่ในที่ร่ม จึงทำให้หลาย ๆ คนต้องเผชิญกับภาวะออฟฟิศซินโดรมที่ส่งผลกระทบกับร่างกายแล้ว แต่เรายังต้องเผชิญกับปัญหาผิวพรรณที่มาจากแสงสว่างของหลอดไฟ รวมไปถึงแสงสีฟ้าของจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนที่เราใช้กันอยู่ ซึ่งนอกจากแสงแดดจากดวงอาทิตย์ที่เราคิดว่าทำร้ายผิวได้ แต่ที่จริงแสงไฟที่เราเพิ่งพูดถึงนี้ก็เป็นสาเหตุทำให้ผิวพรรณเสื่อมโทรมได้เช่นเดียวกัน

  แสงแดด แสงไฟ ตัวการสำคัญทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว
ไม่ว่าจะแสงแดดจากดวงอาทิตย์ หรือ แสงไฟต่าง ๆ ล้วนเป็นศัตรูร้ายที่คอยทำร้ายผิวสวย ๆ ของเรา เพราะเป็นตัวการกระตุ้นให้ผิวสร้างเมลานิน ทำให้ผิวพรรณหมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้ง่าย

  เกิดง่าย...ก็หายได้ด้วยเลเซอร์
ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำต่าง ๆ ถึงแม้จะหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ก็สามารถรักษาได้ด้วย การทำเลเซอร์ในกลุ่ม Q-Switch พลังงานจากแสงเลเซอร์เข้าไปทำให้เม็ดสีดำในผิวหนังแตกตัวกระจายออกกลายเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ โดยไม่ทำลายเซลล์ที่เป็นปกติบริเวณรอบ ๆ โดยเลเซอร์สามารถเจาะจงบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญสามารถควบคุมความเข้มข้นของลำแสงเลเซอร์ได้ ส่วนจำนวนครั้งในการรักษาส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 3-5 ครั้ง เว้นระยะห่างการรักษาต่อครั้ง 6-8 สัปดาห์ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของกระที่ต่างกันออกไป

  ดูแลอย่างไร ไม่ให้กระกลับมาเยือนอีก
หลังทำเลเซอร์ไปแล้ว สาว ๆ ควรป้องกันการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำที่อาจจะกลับมาได้อีก ด้วยการหลีกเลี่ยงแสงแดด และแสงจากหลอดไฟ หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือจอโทรศัพท์ ที่สำคัญควรทาครีมกันแดดเป็นประจำถึงแม้ว่าไม่ได้ออกแดดก็ตาม และควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 30 นาที โดยควรทาซ้ำทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง เพียงเท่านี้ปัญหาเรื่องฝ้า กระ หรือจุดด่างดำก็จะไม่กลับมาคอยกวนใจอีกต่อไป