chat

สัก ทางเลือกในการปกปิดรอยแผล

สัก

"สัก" ทางเลือกในการปกปิดรอยแผล
หลายคนคุ้นเคยกับการสักเพื่อความงาม เช่น สักคิ้ว สักขอบตา สักขอบปาก-ริมฝีปาก สักปานนม-หัวนม แต่ความจริงแล้วยังมีการสักทางการแพทย์เพื่อรักษาหรือแก้ปัญหาความบกพร่องของผิวหนังด้วย เรียกได้ว่าเป็นมิติใหม่ของการสักที่ช่วยทำให้ผิวหนังกลับมามีลักษณะเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงกับผิวหนังปกติมากที่สุด
การสักรักษาช่วยแก้ปัญหาความบกพร่องของผิวหนังได้หลากหลาย เช่น แผลเป็นจากอุบัติเหตุ, แผลเป็นจากการผ่าตัด, แผลไฟไหม้, แผลน้ำร้อนลวก, โรคด่างขาว, ผมร่วง ขนคิ้วหรือขนตาร่วง, สร้างขอบปากหลังการผ่าตัดปากแหว่ง, สร้างหัวนมใหม่หลังการผ่าตัดเต้านม และการลบรอยสักเดิมหรือสักทับรอยเดิมในบางตำแหน่งที่ไม่สามารถลบออกได้ นอกจากนี้การสักรักษายังรวมถึงการสักคิ้ว สักขอบตา สักปาก-ริมฝีปาก สำหรับคนที่มีความยากลำบากในการแต่งหน้า เช่น ผู้ป่วยโรคข้อ โรคที่ทำให้มือสั่น เคลื่อนไหวมือไม่สะดวก แพ้เครื่องสำอาง โรคภูมิแพ้ที่ทำให้มีน้ำตาไหลบ่อย หรือคนที่มีปัญหาทางด้านสายตา เช่น สายตาสั้น ใส่คอนแทคเลนส์ด้วย
การสักรักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ
จะเป็นการสักตามหลักวิชาการที่ได้มาตรฐานจากประสบการณ์โดยตรงของแพทย์ อุปกรณ์และเครื่องมือผ่านการฆ่าเชื้อ สีที่ใช้สักนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสีจากธรรมชาติที่ได้รับการรับรองว่าสามารถนำมาใช้กับร่างกายของมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เข็มที่ใช้สักเป็นเข็มชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง การสักทำในโรงพยาบาลที่มีความสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
สำหรับขั้นตอนการสักรักษาโดยแพทย์ ก่อนอื่นแพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกายโดยเฉพาะตำแหน่งที่ต้องการสักรักษา จากนั้นจึงพิจารณาเลือกสีที่ใช้สักให้เข้ากับสีผิวของคนไข้ แล้วทายาชาเฉพาะที่โดยพิจารณาจากชนิด ประเภท และตำแหน่งของการสัก
เสร็จแล้วจึงเริ่มทำการสักสีเข้าไปในผิวหนัง โดยใช้เครื่องสักซึ่งประกอบด้วยเข็มขนาดต่าง ๆ กันตามความเหมาะสม ในกรณีสักในบริเวณที่บอบบาง เช่น ริมฝีปาก ขอบตา และปานนม จะมีการนำยานอนหลับระยะสั้นมาใช้ร่วมด้วย
ทำให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลายและเจ็บน้อยลงหรือไม่เจ็บเลย การสักทำในห้องผ่าตัดด้วยเทคนิคทางการแพทย์และปราศจากเชื้อ ใช้เวลาในการสักประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง หลังทำสามารถกลับบ้านได้โดยไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล
การสักรักษานับเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับคนที่มีปัญหาของผิวหนังตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เมื่อผิวหนังที่เคยมีจุดบกพร่องถูกปกปิดหรือลบเลือนด้วยการสัก จนทำให้มีลักษณะเหมือนหรือใกล้เคียงกับผิวหนังปกติ จึงช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพ ทำให้มั่นใจในตนเองมากขึ้น ทั้งนี้ การสักรักษาควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการ เพราะหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมาแล้ว การกลับไปแก้ไขในภายหลังค่อนข้างเป็นเรื่องยุ่งยาก