chat

รู้ไหม? ผู้ชายมักจะ “หัวล้าน” มากกว่าผู้หญิง


ปัญหา “หัวล้าน” เป็นเรื่องที่ใครหลายคนวิตกหรือกลัวกันไม่น้อย หลายท่านเข้าใจว่า ผู้ชายนั้นมีโอกาสหัวล้านมากกว่าผู้หญิง ในความเป็นจริง ทั้งหญิงและชายต่างก็มีโอกาสผมร่วง ผมบาง จนนำไปสู่ปัญหาหัวล้านได้ เพียงแต่เพศชายนั้นมีโอกาสที่จะหัวล้านได้มากกว่าเพราะฮอร์โมนเพศชายนั่นเอง     ใช่ว่าผู้ชายทุกคนต้องหัวล้าน   สาเหตุที่ทำให้ผู้ชายมีโอกาสผมบาง ศีรษะล้านนั่นก็คือ กรรมพันธุ์หรือยีนส์ศีรษะล้าน ที่ถูกถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ปู่ย่าตายาย และอีกหนึ่งสาเหตุนั่นก็คือ ฮอร์โมนเพศชาย เทสโทสเตอโรน ฮอร์โมนนี้มีอยู่ในกระแสเลือดทั่วทั้งร่างกายและศีรษะ และถูกเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนชายที่ชื่อ DHT (Dihydrotestosterone) มีอยู่ในเซลล์เส้นผมซึ่งจะทำให้การสร้างเส้นผมที่ขึ้นมาใหม่ให้มีขนาดเล็กลง จนถึงขั้นตายไปในที่สุด แต่หลาย ๆ ท่านก็ยังสงสัยว่า “ทำไมผู้ชายบางคนหัวไม่ล้าน” ทั้ง ๆ ที่ผู้ชายทุกคนก็มีฮอร์โมนเพศชายimg-responsive size-full ว่าผู้ชายบางคนไม่มียีนส์ศีรษะล้านนั่นเอง จึงไม่ทำให้หัวล้าน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้หัวล้านได้นั้นต้องมีครบทั้ง 2 ปัจจัยคือ ยีนส์ศีรษะล้านและฮอร์โมนเพศชายนั่นเอง     ฮอร์โมนเพศชาย...ตัวการสำคัญ   ทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีโอกาสที่จะหัวล้านได้ทั้งคู่ โดยมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ในครอบครัว ถึงแม้ว่าผู้หญิงบางคนจะมียีนส์ศีรษะล้าน แต่มีฮอร์โมนเพศชายน้อยกว่าผู้ชาย จึงทำให้ปัจจัยที่ทำให้หัวล้านมีไม่ครบ ผู้หญิงจึงมีโอกาสศีรษะล้านน้อยกว่าผู้ชายนั่นเอง   หัวล้านรักษาแก้ไขได้   ศีรษะล้านที่เกิดจากฮอร์โมนนั้น ส่วนใหญ่จะไม่งอกขึ้นมาใหม่อีก นอกจากจะรักษาได้ด้วยยาลดระดับฮอร์โมนเพศชาย หรือการฉายแสงเลเซอร์แล้ว ปัจจุบันยังมีเทคโนโลยีปลูกผมซึ่งให้ผลลัพธ์ที่เห็นผล นั่นคือการปลูกผมแบบ FUT หรือ FUE เป็นการย้ายimg-responsive size-full ิเวณท้ายทอย หรือด้านข้างของศีรษะ นำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์ หลังทำการปลูกผม เส้นผมที่ปลูกลงไปจะขึ้นดีเป็นธรรมชาติ  
  ปัญหาหัวล้านจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป หากได้รับการตรวจวิเคราะห์และทำการรักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางตั้งแต่เนิ่นๆ ตั้งแต่เริ่มมีอาการผมร่วงที่สังเกตได้ว่าผิดปกติ เพื่อเสริมบุคลิก เพิ่มความมั่นใจให้คุณได้อีกครั้ง