chat

รอบเอวเพิ่มขึ้น 5 ซม. เสี่ยง “เบาหวาน” 3-5 เท่า

เบาหวาน

ทำไม? คนเป็น "โรคอ้วน" ถึงเสี่ยงเบาหวาน

ผู้ที่มีโรคอ้วน (ดัชนีมวลกาย BMI ≥ 25) และอ้วนลงพุง (รอบเอวผู้ชาย > 90 เซนติเมตร, รอบเอวผู้หญิง > 80 เซนติเมตร) จะมีไขมันที่สะสมในช่องท้องมาก กระตุ้นให้เกิดภาวะอินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่ดี เซลล์ตอบสนองต่อฤทธิ์อินซูลินลดลง (Insulin Resistance) โดยทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถนำกลูโคสเข้าเซลล์ ตับไม่สามารถยับยั้งการสร้างกลูโคสได้ และเซลล์ไขมันไม่สามารถยังยั้งการสลายตัว เกิดเป็นกรดไขมันอิสระแล้วไปทำลายเบตาเซลล์ของตับอ่อน นำไปสู่การเป็นโรคเบาหวาน

รอบเอวที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 5 เซนติเมตร เพิ่มความเสี่ยงเบาหวาน 3-5 เท่า, อ้วนเล็กน้อย-อ้วนปานกลาง-อ้วนมาก มีโอกาสเป็นเบาหวานมากกว่าคนทั่วไป 2-5-10 เท่าตามลำดับ น้ำตาลในเลือดที่สูงเร่งให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือด เพิ่มโอกาสเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยควบคุมอาหารและออกกำลังกายที่สามารถลดน้ำหนักได้ 5-7 % ของน้ำหนักตัวเริ่มต้นลดโอกาสเกิดโรคเบาหวานได้ 50-60 % การลดน้ำหนักจะลดภาวะดื้อต่ออินซูลินได้ ใครที่เป็นเบาหวานอยู่แล้วก็จะคุมระดับน้ำตาลได้ดีขึ้นและลดยาได้ด้วย

• เริ่มต้นลดน้ำหนักอย่างไร

1. มีความตั้งใจ มุ่งมั่นที่จะลดน้ำหนัก ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ของน้ำหนักที่จะลด

2. ไม่เครียดเกินไป ไม่ลดแบบรวดเร็วจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ (อัตราที่เหมาะสมคือ 0.5-1 กิโลกรัม/สัปดาห์) หากิจกรรมต่างๆ ทำ เมื่อคิดหมกมุ่นเรื่องอาหาร

3. ควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 6 กลุ่ม ได้แก่ ข้าวแป้ง, เนื้อสัตว์, ผัก, ผลไม้, นม, น้ำมัน, ร่างกายจึงจะได้รับประโยชน์จากอาหารเต็มที่ กินอาหารพออิ่ม เลือกอาหารธรรมชาติไม่แปรรูป เลี่ยงอาหารหวานจัด มันจัด เค็มจัด

อาหารที่ควรงดเด็ดขาด เช่น น้ำอัดลม แอลกอฮอล์ น้ำหวาน ผลไม้หมักดอง นมข้นหวาน มาการีน มายองเนส

อาหารที่ควรรับประทานน้อยที่สุด เช่น ลูกอม เครื่องดื่มเติมน้ำตาล น้ำผลไม้ ขนมหวาน ขนมขบเคี้ยว เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ติดมัน ไส้กรอก เบคอน

อาหารที่รับประทานได้พอสมควร เช่น ขนมปัง ข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว ผลไม้สุก เผือกมัน นมไขมันต่ำ

อาหารที่รับประทานได้มาก เช่น ผักใบเขียว เนื้อปลา ไข่ขาว เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน

4. เลือกออกกำลังกายที่ตนเองชื่นชอบ มีเวลาน้อยทำน้อย มีเวลามากขึ้นออกกำลังกายให้มากขึ้น เมื่อเราให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายเราจะมีเวลาให้กับการออกกำลังกาย การออกกำลังกายแบบแอโรบิคต่อเนื่อง 45 นาที ของความหนักปานกลาง หรือการเดินต่อเนื่อง 5 วัน ต่อสัปดาห์เป็นวิธีที่ได้ผลดีในการลดน้ำหนัก

5. เริ่มต้นวันนี้ ตอนนี้ ไม่ใช่พรุ่งนี้ เพราะเรารักตัวเอง น้ำหนักที่ปกติส่งผลให้สุขภาพดี ชีวิตดีๆ

บทความโดย : พญ.พัชรินทร์ แช่มพูลศิลป์ แพทย์ประจำศูนย์เบาหวาน โรงพยาบาลยันฮี