chat

ผ่าตัดแปลงเพศต้องรู้! เทคนิคช่วยทำให้ช่องคลอดใหม่ชุ่มชื้น โดยไม่ต้องใช้เจลหล่อลื่นก่อนมีเพศสัมพันธ์


ผ่าตัดแปลงเพศต้องรู้! เทคนิคช่วยทำให้ช่องคลอดใหม่ชุ่มชื้น โดยไม่ต้องใช้เจลหล่อลื่นก่อนมีเพศสัมพันธ์

เป็นที่ทราบกันดีว่าการผ่าตัดแปลงเพศนั้น ช่องคลอดใหม่จะแห้งและไม่มีสารหล่อลื่น ทำให้ต้องอาศัยการใช้เจลหล่อลื่นแทบทุกครั้งเวลามีเพศสัมพันธ์ ซึ่งบางครั้งก็อาจทำให้เกิดความไม่สบายใจ หรือหวั่นเกรงอาการ “โป๊ะ” ที่อาจเกิดขึ้นได้

แม้ว่าจะผ่าตัดแปลงเพศด้วยการใช้ลำไส้ใหญ่หรือเยื่อบุช่องท้อง แต่หมอก็ยังแนะนำให้ใช้เจลหล่อลื่นทุกครั้งเวลามีเพศสัมพันธ์ เนื่องจาก…

  • การแปลงเพศด้วยลำไส้ - เมือกที่สร้างจากลำไส้จะมีลักษณะเหนียวข้น เหมือนไข่ขาวลวกขังอยู่ภายใน และไม่สามารถไหลออกมาสร้างความชุ่มชื้นบริเวณปากทางช่องคลอดได้
  • การแปลงเพศด้วยเยื่อบุช่องท้อง - มีน้ำหล่อลื่นเป็นของเหลวสร้างจากเยื่อบุช่องท้องก็จริง แต่มักจะอยู่ส่วนลึกที่สุด ส่วนทางด้านหน้ายังคงเป็นผิวหนังกราฟอยู่ ซึ่งทำให้ไม่มีสารหล่อลื่นบริเวณปากทางช่องคลอด

การใช้เจลหล่อลื่นทั่วไป ช่วยลดแรงเสียดสีที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บเวลาสอดใส่ได้ แต่มีข้อเสียคือต้องใช้เจลทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะสารหล่อลื่นเหล่านี้จะหลุดหรือละลายน้ำออกไปเมื่อมีเพศสัมพันธ์เสร็จ

การใช้สารประเภท moisturizer ชนิดเจล ใส่ในช่องคลอด ช่วยทำหน้าที่ดึงน้ำเข้าไปในผิวหนังช่องคลอดโดยตรง ทำให้เกิดความชุ่มชื้นภายในช่องคลอด แม้ในเวลาที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ ทำให้ป้องกันการอักเสบติดเชื้อให้เกิดได้ยากขึ้น

เจลดูแลช่องคลอดแห้ง

ออกฤทธิ์เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ช่องคลอด ผ่าน 3 กลไก คือ

  • เนื้อเจลจะทำหน้าที่เป็นแผ่นฟิล์มเคลือบภายในผนังช่องคลอด สร้างความชุ่มชื่นทันทีที่ใช้ และสามารถคงความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 3 วัน
  • เนื้อเจลจะปล่อยน้ำเข้าสู่เนื้อเยื่อภายในโดยตรง ทำให้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวชั้นในได้อีกขั้นหนึ่ง
  • เนื้อเจลช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังเก่าภายในให้หลุดออกไป และสร้างผิวชั้นใหม่ที่ยืดหยุ่น และกระชับมากขึ้น

คำแนะนำในการใช้เจลดูแลช่องคลอดแห้ง:

  • ใช้เจลครั้งละ 1 หลอด (หลอดละ 6.5 กรัม) ก่อนใช้ควรคว่ำหลอด และเขย่าเพื่อให้เนื้อเจลไหลลงสู่ปากหลอด
  • ขณะใช้เจล ให้นอนราบหรือนั่งชันเข่า 2 ข้างก็ได้ตามสะดวก
  • บีบเจลออกมาเล็กน้อย ป้ายที่ปากช่องคลอด และปากหลอดเจล (เพื่อหล่อลื่นให้สอดใส่เข้าไปในช่องคลอดได้ง่ายขึ้น)
  • สอดปากหลอดเจลเข้าไปในช่องคลอด ให้ลึกประมาณ 1-1.5 นิ้ว
  • บีบเนื้อเจลจากปลายหลอด เข้าไปในช่องคลอดจนหมด ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วสามารถลุกไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
  • สามารถใช้เจลได้ทุกเวลา (ใช้ก่อนนอนจะสะดวกที่สุด)
  • เจล 1 หลอด สามารถใช้ได้ 1 ครั้ง ออกฤทธิ์ได้นาน 3 วัน

Q&A:

Q: เนื้อเจลดูแลช่องคลอดแห้งมีความปลอดภัยแค่ไหน?

A: เจลดูแลช่องคลอดแห้งมีความปลอดภัยสูง ไม่สร้างความระคายเคืองให้กับช่องคลอด และไม่ทำปฏิกิริยากับถุงยางอนามัย เนื้อเจลสามารถสัมผัสกับปากได้โดยไม่มีอันตรายแต่อย่างใด (เนื่องจากสารประกอบที่ใช้ในการผลิตเจลเป็นสารที่ใช้ในการผลิตยารับประทานที่ใช้กันเป็นประจำอยู่แล้ว) อย่างไรก็ตามหมอก็ไม่แนะนำให้นำเจลมารับประทานเข้าไปโดยตรง

Q: ควรใช้เจลดูแลช่องคลอดแห้ง หลังผ่าตัดแปลงเพศมานานเท่าไร?

A: ควรใช้เจลดูแลช่องคลอดแห้งแทนการใช้เจลหล่อลื่นทั่วไป ภายหลังจากการผ่าตัดแปลงเพศครบ 1 ปี เนื่องจากในช่วง 1 ปีแรกอาจยังมีการหดรัดตัวของแผลผ่าตัดอยู่ ซึ่งต้องการใช้สารหล่อลื่นในปริมาณที่มากกว่าปกติ

Q: แปลงเพศด้วยเทคนิคต่อลำไส้หรือเยื่อบุช่องท้อง สามารถใช้เจลดูแลช่องคลอดแห้งได้หรือไม่?

A: สามารถใช้ได้

Q: เมื่อใช้เจลดูแลช่องคลอดแห้งแล้ว สามารถสวนล้างช่องคลอดได้หรือไม่?

A: สามารถสวนล้างช่องคลอดได้หลังจากรอให้เนื้อเจลซึมเข้าสู่ผนังช่องคลอดประมาณ 2-4 ชั่วโมง โดยควรสวนล้างช่องคลอดทุกครั้งหลังการมีเพศสัมพันธ์หรือการขยายช่องคลอด

Q: เมื่อใช้เจลดูแลช่องคลอดแห้งแล้ว การขยายช่องคลอดต้องใช้เจลเพิ่มอีกหรือไม่?

A: แนะนำให้ใช้เจลหล่อลื่นแบบทั่วไปร่วมด้วยทุกครั้งในขณะที่ทำการขยายช่องคลอด เนื่องจากแท่งขยาย อาจมีความแห้งและแข็งมากกว่าอวัยวะเพศชายโดยทั่วไป

⚠ ข้อควรรู้และข้อควรระวัง:

  • ในช่วงแรกของการใช้เจลดูแลช่องคลอดแห้ง อาจมีมูกสีขาวออกมาจากช่องคลอด หรือมีอาการแสบได้เล็กน้อย เนื่องจากตัวเจลทำให้มีการผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้เกิดมูกสีขาวที่ออกมา สำหรับอาการแสบที่เกิดขึ้น อาจเกิดจากแผลถลอกภายในที่มีอยู่เดิม ซึ่งตัวเจลมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ อาจทำให้เกิดอาการแสบได้ เมื่อใช้เจลไประยะหนึ่งจนผิวหนังช่องคลอดเกิดสมดุลที่ดีแล้ว อาการแสบและมูกสีขาวจะหายไป
  • ถ้าหากใช้เจลแล้วเกิดอาการเจ็บหรือแสบช่องคลอดมาก หรือมีเลือดออก แนะนำให้หยุดใช้เจล สวนล้างช่องคลอดด้วยน้ำเกลือ และเข้ามาปรึกษาแพทย์
  • สุดท้ายนี้การดูแลช่องคลอดใหม่ ยังต้องอาศัยการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งได้แก่ การรับประทานอาหารให้ครบถ้วน ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมบริเวณจุดซ่อนเร้น และทำจิตใจให้แจ่มใส รวมถึงนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออีกด้วย

รายละเอียดการแปลงเพศจากชายเป็นหญิง คลิก : https://bit.ly/2TmNiB7

บทความโดย นพ.วรพล รัตนเลิศ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมแปลงเพศชายเป็นหญิง ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง และศูนย์ข้ามเพศ โรงพยาบาลยันฮี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่