chat

ป้องกันตัวเองจากโรคไข้เลือดออก


แม้จะผ่านช่วงฤดูฝนมาแล้ว แต่ก็ยังประมาทพิษภัยของโรคร้ายจากยุงลายไม่ได้ สำนักอนามัย โดยกองควบคุมโรคติดต่อ ได้รายงานสถิติผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากต้นปี 2566 จนถึงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่า ยอดผู้ป่วยพุ่งสูงกว่า 120,000 รายแล้ว โดยมีผู้เสียชีวิตกว่า 140 คน เมื่อเทียบเคียงกับสถิติของปีก่อนหน้าในระยะเวลาไล่เลี่ยกันพบว่ามียอดผู้ป่วยสะสมเพียง 28,000 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตมีแค่ 25 คน เท่ากับว่าอัตราการแพร่ระบาดในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว

สำหรับแนวทางป้องกันตัวเองขั้นพื้นฐานที่สุดคือระมัดระวังไม่ให้ยุงกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ยุงลาย” ซึ่งเป็นพาหะของโรค โดยกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังมากเป็นพิเศษ ได้แก่ กลุ่มหญิงตั้งครรภ์เพราะอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ รวมไปถึงเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี และผู้สูงอายุร่วมด้วย

ปัจจุบันมีวัคซีนไข้เลือดออกเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสเดงกี ช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ ขึ้นอยู่กับว่าเคยติดเชื้อมาก่อนหรือไม่ จึงต้องปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดวัคซีนชนิดนี้ทุกครั้ง สำหรับโรงพยาบาลยันฮีมีบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก 2 ชนิด ได้แก่

วัคซีน Dengvaxia ผลิตที่ประเทศฝรั่งเศส เหมาะกับผู้มีอายุระหว่าง 6 - 45 ปี ฉีดได้เฉพาะคนที่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาแล้วเท่านั้น หากไม่มีประวัติการติดเชื้อยืนยัน ควรตรวจเลือดก่อน ฉีดทั้งหมด 3 เข็ม ระยะห่าง 6 เดือน ราคาแพ็คเกจ 9,000 บาท

วัคซีน Qdenga ผลิตที่ประเทศเยอรมนี เหมาะกับผู้อายุระหว่าง 4 - 60 ปี สามารถฉีดได้ทั้งคนที่เคยและไม่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาก่อน โดยไม่จำเป็นต้องตรวจเลือดก่อน ฉีดทั้งหมด 2 เข็ม ระยะห่าง 3 เดือน ราคาแพ็คเกจ 4,200 บาท

สนใจติดต่อได้ที่ศูนย์บริการข้อมูล โรงพยาบาลยันฮี โทร : 1723

ขอขอบคุณภาพจาก : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข