chat

ความลับของโบท็อกซ์

ความลับโบท็อกซ์

เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าโบท็อกซ์ เป็นสารสกัดจากโปรตีนธรรมชาติ ที่มีฤทธิ์ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว โดยกลไกการทำงานคือทันทีที่ฉีดโบท็อกซ์เข้าสู่บริเวณที่ต้องการ ตัวยาจะจับตัวกับปลายเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับส่วนปลายของเซลล์ประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาท Acetylcholine ได้ ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้รอยเหี่ยวย่น หรือริ้วรอยที่เคยมีเลือนหายไป

นอกจากจะสามารถฉีดบริเวณหน้าผาก หางตา รอยหว่างคิ้ว เพื่อลดริ้วรอยความเหี่ยวย่นบนใบหน้าแล้ว ยังสามารถฉีดบริเวณต่อมเหงื่อบริเวณรักแร้ เพื่อลดปริมาณเหงื่อ
อีกทั้งโบท็อกซ์ ยังใช้ช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ที่มีกรามใหญ่ ที่มีสาเหตุจากกล้ามเนื้อโต โดยแพทย์จะฉีดโบท็อกซ์เข้าบริเวณกล้ามเนื้อขากรรไกรทำให้กล้ามเนื้อลีบลง ผลที่ตามมาคือใบหน้าดูเรียว ส่วนใครที่กลุ้มใจกับน่องใหญ่ ก็สามารถให้โบท็อกซ์จัดการได้เช่นกัน และนี่เป็นหนึ่งในความลับของโบท็อกซ์ที่คุณอาจไม่ทราบมาก่อน และยังมีความลับอีกมากที่รอให้คุณพิสูจน์ด้วยตัวเอง

ก่อนอื่นผู้ที่จะเข้าฉีดโบท็อกซ์ มาเช็คความพร้อมของสุขภาพกันเสียก่อน โดยจะต้องไม่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน
ในผู้ที่มีประวัติใช้ยาแอสไพริน วิตามินเสริมต่างๆ อาจจะมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดรอยฟกช้ำหลังการฉีดเพิ่มขึ้น ส่วนใครที่ชอบขัดหน้า ผลัดเซลล์ผิวด้วยเอเอชเอ ก็ควรเว้นเป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มฉีดโบท็อกซ์ เป็นการป้องกันอาการระคายเคือง และลดผลข้างเคียงที่อาจได้รับตามมา

หลักการทำงานของโบท็อกซ์

ถ้าอยากให้โบท็อกซ์ที่ฉีดมีประสิทธิภาพในการทำงานยิ่งขึ้น ต้องเข้าใจหลักการทำงานของโบท็อกซ์เสียก่อนว่า หากคุณเลือกฉีดสารโบท็อกซ์บริเวณหน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 3-7 วัน ส่วนบริเวณกล้ามเนื้อกราม และน่อง ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 3-4 สัปดาห์

ภายหลังการฉีดโบท็อกซ์

ควรพยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด และถ้าฉีดที่บริเวณกราม ให้เตรียมหมากฝรั่งไว้เคี้ยวบริหารกล้ามเนื้อ เพื่อให้ตัวยาที่ฉีดกระจายตัวได้ดี และมีประสิทธิภาพในการทำงานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ภายใน 2 สัปดาห์แรกควรงดเข้าอบไอน้ำ อบซาวหน้า ยิงเลเซอร์ ทำ RF หรือไอออนโตที่หน้า เพราะความร้อนจะส่งผลให้สารโบท็อกซ์ถูกทำลายจนไม่ช่วยให้เกิดผลลัพธ์ตามที่หวังไว้