chat

การนวดแผนไทย ระวังไว้ ปลอดภัยกว่า


‘การนวดแผนไทย’ เป็นศาสตร์การแพทย์แผนไทยที่ได้รับความนิยมมาทุกยุคสมัย โดยเฉพาะในปัจจุบันหลายคนมีอาการออฟฟิศซินโดรม ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ คอ บ่า ไหล่ และอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถใช้บริการนวดได้ทั้งหมด ยังมีบุคคลหลายประเภทที่สภาพร่างกายไม่พร้อม ควรละเว้นเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อ ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก โรคผิวหนัง และอีกหลากหลายข้อจำกัดที่ต้องให้มูลสุขภาพเบื้องต้นแก่แพทย์ หรือสถานบริการนวดแผนไทยทุกครั้ง

ข้อพึงระวังในการนวดแผนไทย
ตำแหน่งในร่างกายที่พึงระมัดระวังในการนวด
Q&A หลากคำถาม มีคำตอบ เกี่ยวกับ ‘ข้อพึงระวังในการนวดแผนไทย’

ข้อพึงระวังในการนวดแผนไทย?

การนวดแผนไทย

ห้ามนวดผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งที่กระจายไปกระดูก หรือกำลังรับเคมีบำบัดไม่ควรนวดเด็ดขาด เพราะการนวดแรงๆ หรือกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองในร่างกาย อาจทำให้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายได้ นอกจากนี้ คนที่มะเร็งลุกลามไปกระดูกแล้ว บริเวณนั้นมักจะอ่อนแอเป็นพิเศษ การกดนวดหรือดัดบริเวณนั้นอาจทำให้เกิดอาการปวดหนักกว่าเดิม และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น กระดูกแตกร้าวหรือการติดเชื้อในกระดูกได้

การนวดแผนไทย

ผู้ที่มีไข้สูงเกิน 38.5 องศา หรือติดเชื้อ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก ลําไส้อักเสบ หรือไข้จากการติดเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย เพราะการนวดจะกระตุ้นให้เกิดเรื่องการอักเสบ ทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายในระบบต่างๆ ของร่างกายได้ เช่น คนที่ไข้เลือดออก อาจมีอาการปวดเมื่อยตัว จนหลายคนอยากไปนวดเพื่อบรรเทา แต่การนวดอาจทำให้เส้นเลือดฝอยแตกง่ายกว่าเดิม เสี่ยงต่อการตกเลือดได้

บริเวณที่มีอาการอักเสบ บวม แดง ร้อน

ผู้ที่มีภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติ กินยาละลายลิ่มเลือดหรือยาต้านเกล็ดเลือด เช่น แอสไพริน หรือยากลุ่มวาร์ฟาริน ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะการกินยากลุ่มนี้ทำให้เลือดออกง่ายกว่าปกติ และหยุดเลือดยาก ถ้าระหว่างการนวดเกิดแรงกระแทกหรือกดจุดแรงๆ จนเส้นเลือดฝอยแตก อาจเกิดรอยฟกช้ำหรือเลือดออกใต้ผิวหนังที่ร่างกายจัดการเองไม่ได้

ผู้ที่กระดูกบางหรือกระดูกพรุน เพราะกระดูกจะเปราะแตกง่าย การนวดที่ใช้แรงเยอะ กดจุด หรือดัดตัว อาจทำให้กระดูกหักโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่เริ่มมีปัญหากระดูกพรุน แต่รู้สึกปวดเมื่อย อยากไปให้หมอนวดช่วยคลายความปวด เพราะการนวดแรงๆ ที่คิดว่าจะช่วยให้ดีขึ้นหรือผ่อนคลาย กลับทำให้เจ็บหนักยิ่งกว่าเดิม

กระดูกแตกหัก ปริร้าว ที่ยังไม่หายดี มีแผลหลังผ่าตัดยังไม่หายสนิท ใส่อวัยวะเทียมหลังผ่าตัดกระดูก เนื่องจากอาจเกิดลิ่มเลือดตามเส้นเลือดได้ ซึ่งการไปนวดแผนไทยในคนไข้ที่มีอาการเหล่านี้ จะทำให้ลิ่มเลือดหลุดออกมาในกระแสเลือด แล้วถ้าลิ่มเลือดไปอุดตันเส้นเลือดในสมองก็จะเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต ถ้าไปอุดตันเส้นเลือดในปอดก็จะเหนื่อย แน่นหน้าอก แล้วก็เสียชีวิต

การนวดแผนไทย

โรคติดเชื้อทางผิวหนังทุกชนิด สามารถติดต่อแพร่เชื้อได้ เช่น โรค อีสุกอีใส หัดเยอรมัน งูสวัด ควรต้องรอให้หายดีก่อน เนื่องจากการนวดต้องใช้อุปกรณ์ร่วมกันเสี่ยงแพร่เชื้อได้

ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงกว่า 160/100 มิลลิเมตรปรอท ที่มีอาการหน้ามืด ใจสั่น ปวดศีรษะ หรือคลื่นไส้อาเจียน ไม่ว่าจะเป็นโรคความดันสูงหรือไม่ แต่หากมีความดันสูงเกิน 140 และมีอัตราหัวใจมากกว่า 24 ครั้ง มีชีพจรมากกว่า 80 ครั้ง ก็ไม่ควรนวดเนื่องจากระบบหมุนเวียนเลือด ดีขึ้นจากการนวดทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นไปอีก และความร้อนในร่างกายยังสูงขึ้นอีกด้วย ถ้าร่างกายไม่แข็งแรงพอ อาจเป็นไข้ได้

ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหลอดเลือด เช่น หลอดเลือดแดงโป่ง หลอดเลือดอักเสบ หลอดเลือดแข็ง ฯลฯ

ผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดแดงโป่งพองในช่องท้อง (Aortic aneurysm) อาการดังกล่าวอาจเป็นแต่กำเนิดหรือเกิดร่วมกับโรคความดันโลหิตสูงเรื้อรัง หากถูกบีบหรือนวดที่ช่องท้องอาจทำให้เส้นเลือดใหญ่ที่ช่องท้องแตกและทำให้เลือดออกมากที่ช่องท้องผู้ป่วยอาจเสียชีวิตในทันทีจากอาการเสียเลือดมาก

การนวดแผนไทย

สตรีมีครรภ์ คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนอาจปวดเมื่อยเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลัง ปวดขา หรือปวดเอว การกดจุดบางจุด เช่น บริเวณเท้า หลังส่วนล่าง หรือท้อง อาจกระตุ้นให้มดลูกบีบตัว อาจเสี่ยงต่อการแท้งหรือคลอดก่อนกำหนดได้ หากอายุครรภ์ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึง 3 เดือน ไม่ควรนวด เพราะการนวดจะกระตุ้นให้แท้งลูกได้ เพราะจะกระตุ้นให้มดลูกรัดตัว เสี่ยงแท้งลูกได้ ช่วง 3 เดือนแรกต้องยกเว้นอย่านวด ส่วนอายุครรภ์ 6 เดือนขึ้นไป มดลูกจะไปกดเส้นเลือดดำ เส้นเลือดแดงไปกดในท้อง ในลำไส้ ก็ไม่ควรไปนวด

สตรีมีประจำเดือน อาจทำให้มีเลือดออกมาผิดปกติ เกิดความแปรปรวนเลือดลมภายใน หรืออาจทำให้เป็นโรคไข้ทับระดูได้

ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เพราะจะมีไขมันอุดตันอยู่ในหลอดเลือดจำนวนมาก ทำให้มีลิ่มเลือด ลอยอยู่ในหลอดเลือดโดยเฉพาะ บริเวณน่องขา หากโดนนวดแรงอาจทำให้ลิ่มเลือดหลุดไปอุดตันที่ปอดได้ และมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่ออวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย

ผู้ที่เพิ่งรับประทานอาหารอิ่มใหม่ ๆ ไม่เกิน 30 นาที ก่อนให้บริการนวด

ผู้ป่วยที่ไม่รับรู้สติหรือหมดความรู้สึก บุคคลเหล่านี้ขาดการรับรู้สิ่งที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายจากการนวดได้เนื่องจากไม่สามารถตอบสนองหรือป้องกันตนเองได้จากการนวดที่อาจลงน้ำหนักแรงเกินไป จนเกิดอาการบาดเจ็บ ฟกช้ำ หรือกระดูกหัก

ตำแหน่งในร่างกายที่พึงระมัดระวังในการนวด

เส้นเลือดคอด้านหน้า เพราะทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงสมอง ทำให้สมองตายได้

ทัดดอกไม้เหนือใบหู เพราะเป็นจุดบอบบางของกะโหลกศีรษะจะแตกหักง่าย กดเส้นประสาททำให้สมองตาย หรือพิการ รวมถึงการนวดให้เด็กซึ่งกลางกระหม่อมยังไม่แข็งแรงอาจก่อให้สมองได้รับอันตราย

ไหปลาร้า เพราะอาจจะแตกหักหรือหลุดได้ง่าย

ใต้รักแร้ เพราะเป็นจุดส่วนรวมเส้นประสาทและต่อมน้ำเหลืองจะทำให้อักเสบได้

บริเวณที่เกิดสีดำเพราะเนื้อเยื่อตาย จากเส้นเลือดอุดตัน เพราะการนวดอาจทำให้ก้อนเลือดจากเส้นเลือดดำเคลื่อนไปอุดหลอดเลือดในปอดหรือสมองได้

ใบหน้า บริเวณใบหูเรื่อยมาถึงขากรรไกร ซึ่งมีเส้นประสาทและต่อมน้ำลาย การนวดที่แรงเกินไป อาจทำให้เส้นประสาทได้รับบาดเจ็บ จนทำให้กล้ามเนื้อและการรับความรู้สึกใบหน้าทำงานผิดปกติ

ไม่ควรทานยาแก้ปวดมาก่อนทำการนวด เพราะทำให้บดบังอาการปวดของกล้ามเนื้อ ทำให้ทนต่อแรงกด ส่งผลให้ผู้นวดต้องออกแรงมากขึ้น อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บโดยไม่รู้ตัวได้ ดังนั้น ก่อนได้รับการนวดควรแจ้งประวัติสุขภาพ หรือโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบทุกครั้ง

Q&A หลากคำถาม มีคำตอบ เกี่ยวกับ ‘ข้อพึงระวังในการนวดแผนไทย’

ถาม ตอบ

ผู้ป่วยที่มีปัญหาเลือดไม่แข็งตัวนวดได้หรือไม่?

ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด หรือ โรคฮีโมฟีเลีย ห้ามนวดแผนไทยโดยเด็ดขาด เพราะการนวดจะเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต อาจทำให้มีอาการเลือดออกใต้ผิวหนัง รวมทั้งเกิดเลือดออกในอวัยวะต่าง ๆ ส่งผลทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการช็อก และเสียชีวิตได้

ถาม ตอบ

ผู้ที่มีปัญหากระดูกสันหลังนวดได้หรือไม่?

ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ไขสันหลัง หรือเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ก็มีข้อห้ามในการนวด ด้วยเช่นกัน เพราะหากเกิดการนวดผิดจุด อาจจะทำให้กระดูกสันหลังมีการเคลื่อนตัว หรือยุบตัวลงไปจนเกิดความเจ็บปวดและอันตรายที่รุนแรงขึ้น หากต้องการนวด แนะนำให้ไปพบแพทย์แผนไทยเฉพาะทางเพื่อความปลอดภัย

แพทย์ผู้เขียนบทความ