ปัญหาเหงื่อออกมากผิดปกติอาจเกิดได้หลายบริเวณ เช่น รักแร้, ฝ่ามือ, ฝ่าเท้า แต่ที่สร้างปัญหามากที่สุดมักเป็นที่รักแร้ เนื่องจากเหงื่อที่ออกมานั้นจะซึมเปื้อนเสื้อผ้าทำให้เกิดความเปียกชื้น หรือเห็นเป็นวงชัดเจนใต้วงแขน และอาจนำไปสู่การเกิดปัญหากลิ่นตัว
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่ช่วยลดเหงื่ออย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ความร้อนจากคลื่นวิทยุที่เฉพาะเจาะจง เทคโนโลยีที่ว่าก็คือ Ultra Dry
หลักการทำงานของ Ultra Dry
หลักการทำงานของ Ultra Dry จะเป็นการส่งพลังงานความร้อนจากคลื่นความถี่วิทยุ (High Power Focused Radio Frequency) ตรงเข้าสู่บริเวณที่ต้องการรักษา โดยคลื่นวิทยุจะไปจับกับโมเลกุลน้ำในต่อมเหงื่อ ซึ่งในการส่งพลังงาน จะทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนระหว่างโมเลกุลนับล้านๆ ครั้งต่อวินาที ส่งผลให้เกิดพลังงานความร้อนไปทำลายเซลล์ต่อมเหงื่อใต้ผิวหนังดังนี้
(1) ทำลายเซลล์ต่อมเหงื่อขนาดเล็ก(Eccrine Sweat gland) ปกติต่อมเหงื่อขนาดเล็กจะทำหน้าที่ผลิตเหงื่อซึ่งเป็นของเหลวใส ไม่มีกลิ่น เมื่อเซลล์ต่อมถูกทำลายปริมาณเหงื่อบริเวณรักแร้จึงลดลง
(2) ทำลายเซลล์ต่อมเหงื่อขนาดใหญ่ (Apocrine Sweat gland) ปกติต่อมเหงื่อขนาดใหญ่จะผลิตสารชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเหลวข้น ไม่มีกลิ่น แต่เมื่อทำปฏิกิริยากับเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังจะเปลี่ยนสภาพเป็นกรดบางชนิดที่ทำให้เกิดเป็น กลิ่นตัวดังนั้นการที่เซลล์ต่อมเหงื่อถูกทำลายจึงส่งผลให้กลิ่นตัวลดลง
ข้อดีของการรักษาด้วย Ultra Dry
การเตรียมตัวก่อนรักษา
เนื่องจากเป็นการรักษาที่ไม่เจ็บ จึงสามารถทำได้เลยในวันที่มาพบแพทย์
ขั้นตอนการรักษา
แพทย์จะใช้หัวอุปกรณ์วนบนผิวบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งจะส่งพลังงานคลื่นวิทยุลงสู่ผิว โดยมีระบบความเย็นช่วยปกป้องผิว ทำให้รู้สึกแค่อุ่นๆ ระหว่างทำ ไม่เจ็บ สำหรับบริเวณรักแร้ ใช้เวลาทำประมาณ 10 -15 นาทีต่อข้าง
การดูแลหลังการรักษา
คุณสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ตามปกติได้ทันทีภายหลังการรักษา และคนไข้จะสังเกตเห็นได้ทันทีว่ามีเหงื่อออกน้อยลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการรักษา และปริมาณเหงื่อจะลดลงอย่างต่อเนื่องจนเห็นได้ชัดในหลายสัปดาห์ต่อมา เพื่อผลการรักษาที่ดี แนะนำให้ทำซ้ำประมาณ 4 ครั้ง ทุก 1 – 2 สัปดาห์ โดยทั่วไปการรักษาจะเห็นผลดีต้องทำซ้ำประมาณ 3 – 4 ครั้ง
![]() |
การลดเหงื่อด้วย Ultra Dry กับ Botox แตกต่างกันอย่างไร |
![]() |
• Ultra Dry เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดเหงื่อโดยใช้ความร้อนจากคลื่นวิทยุไปทำลายเซลล์ต่อมเหงื่อ ไม่มีแผล ไม่เจ็บ แต่ต้องรับการรักษาซ้ำประมาณ 4 ครั้ง ทุก 1-2 สัปดาห์ โดยทั่วไปการรักษาจะเห็นผลดีต้องรับการรักษาซ้ำประมาณ 3-4 ครั้ง • Botox เป็นโปรตีนสกัดที่ใช้ฉีดบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก ตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการสั่งงานของเส้นประสาทที่ไปยังต่อมเหงื่อที่ผิวหนังทำให้มีเหงื่อออกน้อยกว่าปกติ ฉีดเพียงครั้งเดียวก็เห็นผล ผลอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน |
—————————————————- | |
![]() |
บริเวณที่ทำการรักษา เช่น รักแร้ ไม่มีเหงื่อออกจะเป็นอันตรายหรือไม่ |
![]() |
ไม่เป็นอันตราย แต่การที่ไม่มีเหงื่อออกอาจทำให้รักแร้แห้งเกินไปจนเกิดการเสียดสีกันได้ง่าย สามารถแก้ไขได้โดยการทาแป้งหรือครีมเพื่อลดการเสียดสี |
—————————————————- | |
![]() |
กรณีไม่ได้มีเหงื่อออกมากผิดปกติ สามารถรักษาได้หรือไม่ มีผลเสียหรือไม่ |
![]() |
สามารถรับการรักษาได้อย่างปลอดภัย และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ โดยความร้อนจากคลื่นวิทยุจะไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อโดยรอบแต่จะส่งผลต่อต่อมเหงื่อโดยตรง |
—————————————————- | |
![]() |
การรักษากลิ่นตัวจะหายถาวรหรือไม่ มีโอกาสกลับมามีกลิ่นตัวอีกหรือไม่ |
![]() |
การรักษาไม่สามารถทำให้กลิ่นตัวหายถาวร แต่ช่วยให้กลิ่นตัวลดลงได้ และท่านสามารถป้องกันการเกิดกลิ่นตัวด้วยการดูแลสุขอนามัยของร่างกาย ใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และเลี่ยงรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว เช่น กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศ แอลกอฮอล์ เป็นต้น |
—————————————————- | |
![]() |
เหงื่อที่มือ และเท้าออกเยอะ สามารถรักษาได้หรือไม่ |
![]() |
สามารถรักษาได้ โดยปกติ Ultra Dry ช่วยลดเหงื่อที่ออกมากผิดปกติได้ทั้งที่รักแร้, ฝ่ามือ, ฝ่าเท้า |