เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อคนเราอายุมากขึ้นแล้วระบบการทำงานในร่างกายจะเสื่อมโทรมลง ซึ่ง ‘ไต’ ก็ถือเป็นอวัยวะหนึ่งที่สำคัญและมีโอกาสเสื่อมโทรมได้ ลองคิดดูสิว่าหากวันนี้คุณไม่มีไตข้างใดข้างหนึ่ง หรือไตของคุณพังจนใช้การไม่ได้อีก ก็คงจะมีของเสียที่คั่งค้างเต็มร่างกายไปหมดและยังส่งผลร้ายต่อระบบภายในอื่นๆ อีกด้วย ฉะนั้นอย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไปจนถึงวันที่คุณต้องเป็นโรคไตและเสียมันไปจะดีกว่า
หากจะว่าไปแล้ว ‘ไต’ถือว่าเป็นอีกอวัยวะหนึ่งในร่างกายที่ไม่เคยมีเวลาได้หยุดพักเลยสักวันเดียว แถมยังทำงานหนักและทำหลายหน้าที่ไปพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น กำจัดของเสีย สารแปลกปลอมออกมากับปัสสาวะ, ดูดซึมและเก็บสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย, รักษาสมดุลน้ำ, รักษาสมดุลเกลือแร่, รักษาสมดุลกรดด่าง, ควบคุมความดันโลหิต ไปจนถึงการสร้างฮอร์โมนบางชนิด เช่น Erythropoietin ที่ควบคุมการสร้างเม็ดเลือดแดง
“ ไต ” เป็นอวัยวะที่มีอยู่ 2 ข้าง อยู่ด้านหลังชายโครงบริเวณบั้นท้ายเอว รูปร่างคล้ายถั่ว จะประกอบไปด้วย หน่วยไต (Nephron) จำนวนมาก เมื่อเราอายุมากขึ้นหน่วยไตนี้ก็จะลดจำนวนลง เสื่อมสภาพลงไปตามอายุ และจะไม่สามารถแบ่งตัวใหม่ได้อีก
หรือมีคนใดในครอบครัวเป็นโรคไต แม้กระทั่งคนที่ใช้ยาแก้ปวดหรือสัมผัสสารเคมีบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน ทั้งหมดนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคไตด้วยกันทั้งสิ้น
ซึ่งใน 8 โรคนี้มีโรคหนึ่งที่น่ากลัวอยู่ไม่ใช่น้อยนั่นก็คือ โรคไตวาย เป็นภาวะที่ไตทำงานผิดปกติ ทำให้ร่างกายไม่สามารถขับของเสียออกมาทางปัสสาวะ รวมทั้งไม่สามารถขับเกลือแร่ต่างๆ ออกมาทางปัสสาวะได้ตามปกติ เป็นผลทำให้ของเสียเหล่านั้นเกิดการคั่งค้างอยู่ในกระแสเลือดไม่สามารถขจัดออกไปจากร่างกายได้ ส่งผลต่อระบบการทำงานของไตให้เสื่อมลงและส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะในร่างกายทุกส่วนตาม
1. ไตวายเฉียบพลัน จะเป็นภาวะที่เกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว การทำงานของไตลดลงเฉียบพลันเพราะเลือดที่ไปเลี้ยงไตมีน้อยลง เช่น คนไข้ที่อยู่ในภาวะช็อก คนไข้ที่ได้รับสารหรือยาพิษต่อไต และคนไข้ที่เสียเลือดนานๆ ซึ่งภาวะไตวายเฉียบพลันนั้นสามารถรักษาให้ไตกลับมาทำงานปกติได้ ภายใน 1-4 สัปดาห์
2. ไตวายเรื้อรัง จะเป็นโรคที่ส่งผลให้ไตทำงานลดลง ทำลายเนื้อไตอย่างช้าๆ จนไตไม่สามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติ คนไข้ที่เป็นไตวายเรื้อรังจะมีของเสียคั่งค้างในร่างกายเพิ่มขึ้นตลอดเวลา หากไม่ได้รับการรักษาอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ส่วนใหญ่แล้วจะพบในคนไข้ที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานนั่นเอง
สังเกตได้จากอาการบวมที่ใบหน้า เท้า ขา ลำตัว และหนังตา, มีอาการยุบบริเวณหน้าแข้ง, ปวดข้อ, ผมร่วง และอาการสืบเนื่องหลังจากเป็นโรคไตแล้ว จะรู้สึกปวดหลังและคลำเจอก้อนบริเวณไต, มีอาการคลื่นไส้, ท้องอืด, อ่อนเพลีย, ไม่มีแรง, อาเจียน, เบื่ออาหาร, ปัสสาวะผิดปกติ มีสีปัสสาวะขุ่น เป็นฟอง เป็นเลือดสีเหมือนน้ำล้างเนื้อ และรู้สึกแสบ เป็นต้น
ถ้ายังไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ผู้ป่วยจะมีอาการซึมลงจนถึงขั้นไม่รู้สึกตัว มีอาการชัก และอาจเสียชีวิตได้ ดังนั้นหากรู้สึกว่ามีอาการใดๆ ที่น่าสงสัยอยากให้คุณปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจและรักษาต่อไป
ซึ่งการรักษาไตวายเรื้อรังในปัจจุบันนั้นยังไม่มียาชนิดใดที่สามารถหยุดการเสื่อมสภาพของไตหรือลดของเสียในร่างกายได้ คนไข้จำเป็นต้องเข้ารับการล้างไตเพื่อรักษาอาการของโรคไตวายเรื้อรังเท่านั้น
การล้างทางช่องท้องอย่างถาวร โดยการผ่าตัดใส่สายยางลงในช่องท้อง เพื่อใส่น้ำล้างไตเข้าไปแล้วทิ้งไว้ 4-6 ชั่วโมง เพื่อฟอกและล้างเอาของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งหลังการใส่สายในช่องท้องแล้ว คนไข้สามารถกลับบ้านเพื่อไปทำด้วยตนเองได้ แต่ต้องมีผู้ดูแลเปลี่ยนถ่ายน้ำยาให้อย่างถูกวิธี ต้องระมัดระวังในเรื่องของการเปลี่ยนถุงและรักษาความสะอาด เพราะอาจเกิดการติดเชื้อในช่องท้องได้ ควรทำเช่นนี้วันละ 4 รอบต่อเนื่องทุกวัน
-ข้อดีของวิธีนี้คือคนไข้สามารถทำเองได้ที่บ้าน ไม่ต้องพึ่งไตเทียม ดำรงชีวิตได้ตามปกติ และยังเหมาะกับทุกเพศทุกวัยอีกด้วย
การฟอกเลือดโดยใช้เครื่องไตเทียม คนไข้ต้องมาฟอกเลือดที่โรงพยาบาล เพื่อฟอกเอาของเสียออกจากเลือดในร่างกาย มีตัวกรองเป็นตัวกลางในการกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออก โดยเลือดจะไหลผ่านตัวกรองนั้นซึ่งมีลักษณะเป็นหลอดเล็กๆ เหมือนหลอดเลือดฝอยที่มีรูขนาดเล็กมากๆ อยู่ที่ผนังของหลอด และมีน้ำยาฟอกเลือดไหลผ่านอยู่ด้านนอกหลอด ของเสียที่มีระดับสูงในเลือดจะเคลื่อนผ่านผนังของตัวกรองเข้าไปอยู่ในน้ำยาฟอกเลือด ทำให้ระดับของเสียในเลือดลดลง น้ำและเกลือแร่จะมีการเคลื่อนผ่านผนังของตัวกรอง ทำให้ระดับเกลือแร่และดุลของน้ำเป็นปกติ หลังจากนั้นเลือดที่ผ่านการฟอกแล้วจะถูกส่งกลับคืนให้ผู้ป่วย ส่วนใหญ่แล้วใช้เวลาในการทำแต่ละครั้งประมาณ 3-5 ชั่วโมง และจะทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
นอกจากวิธีการรักษาด้วยการล้างไตแล้ว ยังสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนไตอีกด้วย ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีการแก้ปัญหาไตวายเรื้อรังที่ดีที่สุด แต่ตัวคนไข้เองต้องมีสภาพร่างกายที่เหมาะสมกับการผ่าตัดเปลี่ยนไต พูดง่ายๆ ก็คือ การผ่าตัดเพื่อนำเอาไตของผู้บริจาคมาใส่ในร่างกายเรา โดยไตของผู้บริจาคเองต้องสามารถเชื่อมเข้ากันกับร่างกายของเราได้ด้วยซึ่งถือเป็นเรื่องที่ยากมากหากไม่ใช่คนในครอบครัว
หลังจากที่ได้เข้ารับการรักษาโรคไตวายแล้ว คนไข้ยังจำเป็นที่จะต้องดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น
อย่าลืมว่าสุขภาพตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญ การตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการอยู่ในสังคมทุกวันนี้ให้ได้อย่างปลอดภัย หากคุณเองมีข้อสงสัยว่าจะเป็นโรคไตหรือไม่นั้น ให้รีบปรึกษาศูนย์แพทย์ที่เกี่ยวกับโรคไต เพราะที่นั่นจะมีทั้งแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านไตและเครื่องมือที่พร้อมในการตรวจหรือรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคไตโดยเฉพาะ
ผ่าตัดหลอดเลือดสำหรับฟอกไต โดยใช้เส้นเลือดธรรมชาติ
31,000 บาท
ผ่าตัดหลอดเลือดสำหรับฟอกไต โดยใช้สายฟอกไตชนิดกึ่งถาวร
พัก 1 คืน
41,000 บาท
ผ่าตัดหลอดเลือดสำหรับฟอกไต โดยใช้เส้นเลือดเทียม
46,000 บาท
ล้างไตสำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังทั่วไป ต่อครั้ง
2,000 บาท
ล้างไตสำหรับผู้ป่วยไตวายเฉียบพลัน ต่อครั้ง
3,500 บาท