chat

คงไม่มีใครอยากใส่ฟันปลอม แต่ในเมื่อไม่สามารถรักษาฟันแท้ชุดสุดท้ายไว้ได้อีกต่อไป ทางเลือกก็คือ การ ใส่ฟันปลอม เพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการเห็นผู้สูงอายุอย่างคุณตาคุณยายใส่ฟันปลอม แต่ในคนหนุ่มสาวก็มีสาเหตุที่ทำให้ต้อง ใส่ฟันปลอมได้เช่นกัน อย่างการมีฟันผุจนต้องถอนฟันออกไป หรือการสูญเสียฟันจากอุบัติเหตุ ทำให้ฟันหลอ โดยเฉพาะถ้าเกิดขึ้นกับฟันหน้าด้วยแล้ว จะขาดความมั่นใจ นอกจากนั้นยังทำให้ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารลดลงอีกด้วย

หากไม่ใส่ฟันปลอม จะส่งผลเสียอะไรบ้าง?

ฟันปลอมเปรียบเหมือนฟันชุดที่ 3 รองจากฟันน้ำนมและฟันแท้ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่มีฟันไม่ครบทั้งปาก เพราะถ้ามีช่องว่างระหว่างฟันแล้วไม่ใส่ฟันปลอม ก็จะส่งผลให้ฟันที่อยู่ข้างเคียงโยก ล้ม หรือเอียง และทำให้ฟันหลุดเพิ่มได้ ทำให้การสบฟันผิดปกติ ส่งผลให้โครงสร้างของใบหน้าผิดรูปไปจากเดิม

มาดูกันว่าฟันปลอมมีกี่ชนิด

สำหรับคนที่กำลังมองหาฟันปลอมเพื่อทดแทนฟันธรรมชาติอยู่นั้น เรามาทำความรู้จักกับชนิดของฟันปลอมกันก่อนดีกว่า ว่าฟันปลอมมีกี่ชนิด ซึ่งโดยปกติแล้วฟันปลอมที่เรารู้จักทั่วไปจะมีด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่ ฟันปลอมชนิดถอดได้และฟันปลอมชนิดติดแน่น

1.ฟันปลอมชนิดถอดได้

ฟันปลอมชนิดถอดได้จะมี 2 แบบ คือ ฟันปลอมแบบโครงโลหะและแบบฐานพลาสติก ทั้งสองแบบสามารถใช้ได้กับการสูญเสียฟันตั้งแต่ 1 ซี่ หรือหลายซี่ จนถึงไม่มีฟันทั้งปาก

ข้อแตกต่างของฟันปลอมชนิดถอดได้

  • สามารถถอดเข้าถอดออกได้ ทำให้ดูแลทำความสะอาดได้ง่าย และไม่เสียเวลามาก และเมื่อเทียบกับฟันปลอมชนิดติดแน่น ราคาต่อชิ้นจะถูกกว่า
  • ชิ้นของฟันปลอมจะค่อนข้างใหญ่ ทำให้ไม่สะดวกสบาย อาจทำให้รู้สึกรำคาญ ต้องถอดออกมาล้างทำความสะอาดทุกวัน และที่สำคัญอาจเห็นตะขอเวลายิ้ม ทำให้เสียความสวยงามไปบ้าง

2.ฟันปลอมชนิดติดแน่น

ฟันปลอมชนิดติดแน่นจะมี 2 แบบคือ ฟันปลอมชนิดติดแน่นด้วยสะพานฟัน ที่จะเป็นฟันปลอมถาวร ติดยึดแน่นในช่องปาก ไม่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ และฟันปลอมชนิดติดแน่นด้วยรากฟันเทียม ที่เป็นการจำลองลักษณะของฟันธรรมชาติทั้งในส่วนของตัวฟันและรากฟัน จึงเหมือนกับเป็นการปลูกฟันธรรมชาติที่สูญเสียไปแล้วขึ้นมาใหม่

ข้อแตกต่างของฟันปลอมชนิดติดแน่น

  • ไม่ขยับ ไม่หลวม หรือหลุดในขณะพูด หรือเคี้ยวอาหาร ทำให้มีความมั่นใจ รวมทั้งขนาดของฟันที่ใกล้เคียงฟันธรรมชาติ ทำให้ไม่รู้สึกรำคาญ นอกจากนั้นฟันที่ใส่ยังมีความสวยงามใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากและยังมีประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวเป็นอย่างดี โดยเฉพาะฟันปลอมรากฟันเทียม
  • มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง โดยเฉพาะฟันปลอมรากฟันเทียม การทำความสะอาดอาจจะยุ่งยากกว่าฟันปลอมชนิดถอดได้เพราะไม่สามารถถอดออกมาล้างได้ ต้องใช้แปรงสีฟันหรือไหมขัดฟันช่วยทำความสะอาดบริเวณซอกฟันด้วย

ถึงจะเป็นแค่ฟันปลอม แต่มันก็มีวันเสื่อม หมดอายุการใช้งานที่มักมีปัญหาแตก หัก บิดเบี้ยว หลวม หรือเกิดปัญหาจากการใส่ฟันปลอมได้เหมือนกัน เช่น เหงือกอักเสบจากการที่ฟันปลอมไปถูหรือกดเหงือก หรือเนื้อเยื่อในปาก มีการยุบตัวของสันเหงือกรวมถึงปัญหาอื่นๆ ในช่องปากที่ จำเป็นต้องแก้ไข อาทิ อุดฟัน, ขูดหินปูน หรือรักษาโรคเหงือก เป็นต้น ดังนั้นจึงควรไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน หรืออย่างน้อยปีละครั้ง

คงเห็นแล้วว่า การใส่ฟันปลอมไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด นอกจากช่วยให้คุณกลับมายิ้มได้อย่างเต็มที่แล้ว การใส่ฟันปลอมยังสามารถทำให้คุณมีความสุขในการรับประทานอาหารที่ชอบ และเข้าสังคมได้อย่างมั่นใจอีกด้วย

ข้อมูลโดยทพญ.สิริวรรณ ตันจันทร์พงศ์

ค่ารักษา

ฟันปลอมทั้งปาก ฐานเป็นพลาสติก 25,000 บาท
ฟันปลอมถาวร ถอดได้ ฐานเป็นโลหะ ชิ้นละ 14,000-16,000 บาท
ครอบฟัน ซี่ละ 8,000-20,000 บาท

ฟันปลอมทั้งปาก ฐานเป็นพลาสติก

25,000 บาท

ฟันปลอมถาวร ถอดได้ ฐานเป็นโลหะ ชิ้นละ

14,000-16,000 บาท

ครอบฟัน ซี่ละ

8,000-20,000 บาท

ทันตแพทย์ประจำศูนย์ทันตกรรมทั่วไป

เพิ่มเติม

เกร็ดความรู้

เพิ่มเติม