chat

เสริมหน้าอกแบบส่องกล้อง

“หน้าอก” เป็นอวัยวะที่บ่งบอกถึงความเป็นเพศหญิง ส่งผลโดยตรงต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจในการใช้ชีวิต รวมถึงการประกอบอาชีพร่วมด้วย ขนาดที่ไม่สมดุลกับความต้องการหรือความพึงพอใจของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะด้วยขนาดที่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ย่อมเป็นที่มาสำคัญของการตัดสินใจ “ทำนม-เสริมนม-ศัลยกรรมนม-ทำหน้าอก” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเสริมหน้าอกเพื่อเพิ่มขนาดกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ “โรงพยาบาลยันฮี” ถือเป็นสถานพยาบาลที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับด้านศัลยกรรมเสริมหน้าอก เพราะมีทีมแพทย์ที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์และความชำนาญ เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยและปลอดภัย มีมาตรฐานได้รับการยอมรับทั้งในระดับชาติและนานาชาติ

ราคา

ศัลยกรรมผ่าตัดเสริมหน้าอกผ่านกล้องคืออะไร?

การผ่าตัดเสริมหน้าอกแบบส่องกล้อง แตกต่างจากแบบธรรมดาอย่างไร?

การเตรียมความพร้อมก่อนเสริมหน้าอกแบบส่องกล้อง

ซิลิโคนที่ใช้ในการผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยวิธีส่องกล้อง

Q&A หลากคำถาม มีคำตอบ เกี่ยวกับ “การศัลยกรรมเสริมหน้าอกแบบส่องกล้อง”

ศัลยกรรมผ่าตัดเสริมหน้าอกผ่านกล้องคืออะไร

ศัลยกรรมผ่าตัดเสริมหน้าอกผ่านกล้อง คืออะไร?

การศัลยกรรมผ่าตัดเสริมหน้าอกผ่านกล้อง คือ วิธีการผ่าตัดโดยใช้อุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า ‘กล้องเอ็นโอสโคป’ (Endoscopic Breast Surgery) ประกอบด้วยอุปกรณ์ที่จำเป็นสองส่วน คือ กล้องขนาดจิ๋วที่มีไฟติดอยู่ที่ส่วนปลายสุดของท่อ จอมอนิเตอร์ที่สามารถมองเห็นภาพขยายจากกล้องได้ เครื่องมือพิเศษที่ใช้ในการเลาะโพรงกล้ามเนื้อ ศัลยแพทย์จะดำเนินการผ่าตัดเปิดผิวหนังบริเวณใต้รักแร้ประมาณ 3-4 เซนติเมตร แล้วสอดกล้องเอ็นโอสโคปเข้าไปเพื่อเป็นการนำทางสายตา โดยภาพจะถูกส่งผ่านกล้องมายังจอมอนิเตอร์ โดยปกติการเสริมหน้าอกผ่านแผลทางรักแร้จะไม่สามารถมองเห็นช่องข้างในที่จะผ่าตัดเพื่อใส่ซิลิโคนได้ ในอดีตจึงต้องใช้เครื่องมือที่เป็นแท่งขนาดใหญ่เข้าไปเลาะช่องภายในหน้าอก ส่งผลให้การผ่าตัดเสริมหน้าอกทางรักแร้มีข้อจำกัดมากกว่าแผลใต้ราวนม ใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่า เพราะช้ำและมีเลือดออกมาก รวมทั้งใช้เวลานานกว่าที่หน้าอกจะเข้าที่ได้ทรงอย่างที่ต้องการ รวมถึงมีโอกาสสูงในการเกิดพังผืดหลังการผ่าตัด

ศัลยกรรมผ่าตัดเสริมหน้าอกผ่านกล้องคืออะไร

การผ่าตัดเสริมหน้าอกแบบส่องกล้อง แตกต่างจากแบบธรรมดาอย่างไร?

ศัลยกรรมผ่าตัดเสริมหน้าอกผ่านกล้องคืออะไร

ศัลยกรรมผ่าตัดเสริมหน้าอกผ่านกล้องคืออะไร

การเตรียมความพร้อม ก่อนเสริมหน้าอกแบบส่องกล้อง

  • เตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยการออกกำลังกายอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง โดยเฉพาะในอวัยวะที่สำคัญอย่างหัวใจ ปอด รวมทั้งอวัยวะส่วนอื่นที่มีความจำเป็นต่อการพักฟื้นหลังการผ่าตัด ซึ่งหากร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรง จะช่วยให้แผลหลังผ่าตัดหายได้เร็วขึ้น ก่อนเข้าผ่าตัด 1 เดือน
  • ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเน้นอาหารประเภทโปรตีน เพื่อให้ภายในร่างกายสามารถสะสมคอลลาเจนได้มากขึ้น โดยเฉพาะสารอัลบูมิน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่สำคัญ ในการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายของเราฟื้นตัวหลังผ่าตัดได้เร็ว
  • ควรพบแพทย์ก่อนผ่าตัด เพื่อตรวจสอบโรคประจำตัว อาการแพ้ยา กรณีที่รับประทานอาหารเสริม วิตามิน และยาสมุนไพร ควรงดรับประทานก่อนการผ่าตัดเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนผ่าตัด งดสูบบุหรี่ เหล้า แอลกอฮอล์ เบียร์ เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน

ซิลิโคนที่ใช้ในการผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยวิธีส่องกล้อง

สำหรับซิลิโคนที่ใช้ในการผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยวิธีส่องกล้องจะใช้ซิลิโคนที่มีความนุ่มมากเป็นพิเศษ ใกล้เคียงกับหน้าอกจริงของผู้หญิง ยืดหยุ่นสูง มีความเป็นธรรมชาติสูง เหมาะกับการใส่ในแผลผ่าตัดขนาดเล็ก โดยมีให้เลือกหลายรุ่นหลายขนาด จึงควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดทั้งชนิด ขนาด และยี่ห้อก่อนเข้ารับการผ่าตัด

ผิวสัมผัสของซิลิโคน

ซิลิโคนที่นำมาใช้ในการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกมีหลากหลายผิวสัมผัส ได้แก่

ซิลิโคน

“ซิลิโคนแบบผิวเรียบ” มีพื้นผิวที่เรียบเนียนและโปร่งใสคล้ายถุงร้อนที่ใส่น้ำจนเต็ม สามารถมองเห็นไคเฮซีสเจล (Cohesive Gel) ด้านในได้อย่างชัดเจน ง่ายต่อการใส่ในหน้าอก มีระยะเวลาผ่าตัดสั้นและบวมน้อยกว่าซิลิโคนประเภทอื่น อย่างไรก็ตาม หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนแบบผิวเรียบควรนวดเต้านมเพื่อลดการเกิดพังผืดรอบซิลิโคนและลดอาการเจ็บ

ซิลิโคน

“ซิลิโคนแบบผิวทราย” ผิวสัมผัสมีความสากและขรุขระ มีสีขาวขุ่น ออกแบบมาเพื่อลดปัญหาการเคลื่อนตำแหน่งหลังจากเสริมหน้าอกไปแล้ว เพราะผิวทรายจะช่วยยึดเกาะกับเนื้อเยื่อโดยรอบ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดพังผืดได้เป็นอย่างดี แต่การใช้ซิลิโคนแบบผิวทรายที่ผิวสัมผัสมีความหยาบมากที่รายงานเกี่ยวกับมะเร็งพังผืดทำให้ความนิยมลดลงไปมาก

ซิลิโคน

“ซิลิโคนแบบผิวนาโน” หรือ “ซิลิโคนผิวกำมะหยี่” เป็นการผสมผสานกันระหว่างข้อดีของซิลิโคนแบบผิวเรียบและผิวทรายรวมเข้าไว้ด้วยกัน มีผิวสัมผัสที่เรียบทำให้ใส่ในหน้าอกได้ง่าย เนื้อเยื่อบอบช้ำน้อยช่วยลดโอกาสในการเกิดพังผืด ลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ข้อดี คือ ไม่ต้องนวดเต้านม หน้าอกมีความเป็นธรรมชาติและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ซิลิโคนจะยึดติดและกลมกลืนกับทรงนมโดยลดการเกิดพังผืด ทั้งยังมีอายุการใช้งานยาวนานอีกด้วย การผ่าตัดโดยการส่องกล้องจุดมุ่งหมายหลักคือการทำช่องเพื่อให้ถุงนมอยู่ในตำแหน่งที่พอดี ไม่ใหญ่เกินไปจนถุงนมผิดรูปอยู่ด้านข้างหรือต่ำเกินไปเพราะถุงผิวเรียบและผิวนาโน ถึงแม้จะเป็นถุงที่ปลอดภัย ยังไม่มีรายงานมะเร็งพังผืดแต่โอกาสเลื่อนหรือไหลของถุงนมมีมากกว่าถุงแบบผิวทรายหยาบ ดังนั้น ช่องที่ถุงนมอยู่จะต้องมีความแม่นยำมากขึ้น

เสริมหน้าอกแบบส่องกล้อง ราคา

ยี่ห้อ SEBBIN ทรงกลม ผิวทราย (พัก รพ. 1 คืน)

87,500 บาท

ยี่ห้อ MENTOR ทรงกลม ผิวเรียบ/ผิวทราย

100,000 บาท

ยี่ห้อ MENTOR ทรงกึ่งหยดน้ำ ผิวเรียบ/ผิวทราย (พัก รพ. 1 คืน)

133,000 บาท

ยี่ห้อ MOTIVA รุ่น Silk Surface ทรงกลม ผิวนาโน

127,000 บาท

ยี่ห้อ MOTIVA รุ่น Ergonomix ทรงกึ่งหยดน้ำ ผิวนาโน

157,000 บาท

ยี่ห้อ MOTIVA รุ่น Ergonomix II ทรงกึ่งหยดน้ำ ผิวนาโน

255,000 บาท

กรณีเสริมหน้าอกแบบส่องกล่อง จ่ายเพิ่มอีก

30,500 บาท

Q&A หลากคำถาม มีคำตอบ เกี่ยวกับ “การศัลยกรรมเสริมหน้าอก”

ถาม
ตอบ

หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกแบบส่องกล้องควรดูแลตัวเองอย่างไร?

  • -หากมีอาการปวดแผล สามารถกินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
  • -สวมเสื้อในแบบ Support Bra และ Sport Bra ตามคำแนะนำของแพทย์
  • -งดทานอาหารหมักดองและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • -งดออกกำลังกายอย่างหนัก 2-4 สัปดาห์หลังผ่าตัด, .เลี่ยงการขับรถ 7-10 วันหลังผ่าตัด
  • -งดมีเพศสัมพันธ์ 6 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด
  • – หลีกเลี่ยงการยกของหนักหลัง 1 สัปดาห์แรกของการผ่าตัด
  • -หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลสัมผัสน้ำก่อนแพทย์นักตัดไหม
  • -นอนในท่าที่ถูกต้อง โดยเฉพาะ 1 ถึง 3 วันแรก ต้องนอนหมอนสูงเพื่อลดอาการบวม จากนั้นช่วง 7 หลังผ่าตัด บริเวณแผลจะเริ่มทรงตัว สามารถนอนหงายได้ปกติ แต่หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง หรือนอนคว่ำ

หัตถการของศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง

เกร็ดความรู้

เพิ่มเติม