chat

เสริมจมูกกระดูกอ่อนเทียม PCL Mesh

ทำไมต้องเสริมจมูกด้วย PCL Mesh

correct

เสริมปลายจมูกสั้น ให้ยาวขึ้น

correct

เสริมปลายจมูกเตี้ย ให้สูงขึ้น

correct

ไม่ต้องเจ็บตัวเพิ่ม ทดแทนการใช้กระดูกอ่อนจริง

correct

ปราศจากซิลิโคนที่ปลายจมูก ลดโอกาสปลายทะลุในอนาคต

ทำความรู้จักนวัตกรรมใหม่!! PCL Mesh

ในการเสริมจมูก นอกจากจะเสริมเพื่อเพิ่มความสูงโด่งของสันจมูกแล้ว บริเวณส่วนปลายจมูกก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน ยิ่งปลายโด่งพุ่งสวย ก็จะทำให้รูปทรงจมูกดูสวยมีมิติมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีการใช้วัสดุต่าง ๆ เข้ามาช่วยยืดเนื้อเยื่อบริเวณปลายจมูกให้ดูโด่งพุ่งสวยได้ และยังมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นเพราะช่วยลดโอกาสปลายจมูกบาง ทะลุในอนาคต เช่น กระดูกอ่อนจริงจากคนไข้เองที่มาจากผนังกั้นจมูก, หลังใบหู หรือซี่โครง นอกจากนี้ยังมีวัสดุที่ใช้ในทางการแพทย์โดยเฉพาะ อย่างเนื้อเยื่อเทียม ADM รวมไปถึง “กระดูกอ่อนเทียม (PCL Mesh)” ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

กระดูกอ่อนเทียม (PCL Mesh)

อย่างเนื้อเยื่อเทียม ADM รวมไปถึง “กระดูกอ่อนเทียม (PCL Mesh)” ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันกระดูกอ่อนเทียม หรือ PCL Mesh ย่อมาจาก Polycaprolactone Mesh เป็นวัสดุทางการแพทย์ที่มีการใช้งานมาอย่างยาวนาน

ซึ่งในปัจจุบันได้นำมาใช้อย่างกว้างขวางสำหรับศัลยกรรมเสริมจมูก เนื่องจากสามารถใช้ทดแทนกระดูกอ่อนจริงของคนไข้ได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใช้กระดูกอ่อนในร่างกายของตนเอง

กระดูกอ่อนเทียม (PCL Mesh)

โดยกระดูกอ่อนเทียมจะมีลักษณะเป็นแผ่นคล้ายกระดูกอ่อนและมีโครงสร้างตาข่ายให้เนื้อเยื่อและเส้นเลือดสามารถแทรกเข้าไปในตัว PCL Mesh และสมานกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกับกันกระดูกอ่อนบริเวณปลายจมูก โดยหลังจากเสริมประมาณ 2-3 ปี PCL Mesh ก็จะสลายไปได้เองโดยมีโครงสร้างเนื้อเยื่อของตัวเองเข้าไปแทนที่

กระดูกอ่อนเทียม (PCL Mesh)

เทคนิคการใช้ PCL Mesh เป็นเทคนิคที่เน้นการยืดเนื้อเยื่อบริเวณปลายจมูกโดยเฉพาะและสามารถแก้ไขจมูกปลายสั้น, เตี้ย หรือเนื้อจมูกน้อย ให้ปลายจมูกดูโด่งและยาวขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถทำร่วมกับการเสริมสันจมูกได้โด่งขึ้น หรือร่วมกับการปรับโครงสร้างจมูกได้ในคราวเดียวกันอีกด้วย

ขั้นตอนการเสริมจมูกด้วย PCL Mesh

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด

ขั้นตอนการเสริมจมูกด้วย PCL Mesh

ขั้นตอนเริ่มจากการพบแพทย์เพื่อตรวจวิเคราะห์โครงสร้างจมูกเดิมของคนไข้ จากนั้นจึงพิจารณาวิธีการเสริมจมูกเพื่อให้ตรงกับความต้องการของคนไข้ รวมไปถึงความเหมาะสมกับโครงสร้างจมูกเดิม เช่น

  • โครงสร้างจมูกสั้น เตี้ย ไม่มีดั้ง อาจใช้วิธีการเสริมความโด่งของสันจมูกด้วยซิลิโคนร่วมกับยืดปลายจมูกให้สูงและยาวขึ้นด้วย PCL Mesh
กระดูกอ่อนเทียม (PCL Mesh)

โดยแพทย์จะทำการตกแต่งแผ่น PCL Mesh ให้มีรูปทรงที่เหมาะสม

กระดูกอ่อนเทียม (PCL Mesh)

จากนั้นวางในตำแหน่งแนวตั้งบริเวณปลายจมูก (เพื่อปรับปลายจมูกให้โด่งสูงขึ้น)

กระดูกอ่อนเทียม (PCL Mesh)

และอาจเพิ่ม PCL Mesh แนวนอนบริเวณผนังกั้นจมูก (เพื่อยืดปลายจมูกให้ยาวขึ้น)

กระดูกอ่อนเทียม (PCL Mesh)

จากนั้นทำการเย็บกระดูกอ่อนส่วนปลายของคนไข้เข้ากับกระดูกอ่อนเทียม

กระดูกอ่อนเทียม (PCL Mesh)

ผลลัพธ์ที่ได้คือ “ปลายจมูกที่โด่งและยาวขึ้น”

  • ปัญหาโครงสร้างจมูกอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ฮัมพ์ (กระดูกบริเวณสันจมูกที่นูนออกมา), ฐานจมูกกว้าง หรือจมูกผิดรูปคดเอียง ก็สามารถปรับโครงสร้างจมูกไปพร้อมกับการเสริมปลายจมูกให้โด่งพุ่งขึ้นด้วย PCL Mesh ได้ในคราวเดียวกัน เป็นต้น การผ่าตัดเสริมปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนเทียมมักเป็นการผ่าตัดแบบเปิด หรือ Open Rhinoplasty คือ เปิดแผลบริเวณใต้ฐานจมูกและในรูจมูก 2 ข้าง แยกผิวหนังออกจากโครงสร้างด้านในของจมูก และทำการปรับแต่งโครงสร้าง ซึ่งการผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

  • ควรงดสูบบุหรี่และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
  • ควรงดทานยากลุ่มแอสไพริน หรือ ไอบิวโพรเฟน ที่มีผลต่อการฟกช้ำบวมจากเลือดคั่งหลังผ่าตัด
  • ควรงดทานอาหารเสริม น้ำมันตับปลา หรือวิตามินต่างๆ ที่มีผลต่อการไหลของเลือด(เลือดหยุดช้า)หลังผ่าตัด
  • หากท่านมีโรคประจำตัวและทานยารักษาโรคอยู่ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อน
  • หากเป็นการผ่าตัดเสริมจมูกแบบใช้ยาสลบ แพทย์จะแจ้งให้งดน้ำและอาหาร 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด หรือหากเป็นการผ่าตัดแบบฉีดยาชา ควรงดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัด 4 ชั่วโมง
  • ในวันผ่าตัด ควรงดการแต่งหน้า และสระผมให้เรียบร้อยก่อน

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด

  • ในช่วง 24 – 48 ชม.แรก ให้ประคบด้วยความเย็น อาจใช้แผ่นเจลหรือผ้าชุบน้ำเย็นประคบ ถ้าอยากให้ยุบบวมเร็วควรขยันประคบบ่อยๆ
  • ให้นอนศีรษะสูง เพื่อลดอาการบวม และสวมใส่เสื้อผ้าที่มีกระดุมติดด้านหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงที่จมูกจะสัมผัส/กระแทกโดนกับเสื้อ
  • ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ให้หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด, เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
  • ใช้สบู่อ่อนล้างหน้าได้ในวันแรก แต่ต้องเบามือ ทำความสะอาดบริเวณแผลด้วยน้ำสะอาด โดยใช้ Cotton Bud ชุบน้ำเกลือแล้วทำความสะอาดโดยรอบ แล้วป้ายยาที่แพทย์สั่ง
  • อาการปวดพบได้ 1 – 2 วันแรกหลังผ่าตัดเหมือนการผ่าตัดทั่วไป สามารถรับประทานยาแก้ปวดบรรเทาอาการได้
  • มาพบแพทย์ตามนัดหลังผ่าตัดประมาณ 1-2 สัปดาห์

หัตถการของศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง

เกร็ดความรู้

เพิ่มเติม