chat

เชื้อไวรัส HPV

การติดเชื้อ HPV มักเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธุ์ สถิติทางการแพทย์พบว่าอย่างน้อยร้อยละ 75 ของวัยเจริญพันธ์มีการติดเชื้อ HPV ไม่ช่วงใดก็ช่วงหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่ามากกว่า 6 ล้านคนมีการติดเชื้อทุกๆ ปี และครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อมีอายุระหว่าง 15-25 ปี ไม่ว่าจะติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ใดก็ตาม ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการ ดังนั้น การที่จะวินิจฉัยว่าติดเชื้อ HPV หรือไม่สามารถบ่งบอกได้จากการตรวจ DNA บางรายที่พบว่าติดเชื้อ คือผลตรวจเป็นบวก และระยะต่อมาเมื่อผ่านไปเป็นเดือนหรือปี ผลตรวจเปลี่ยนเป็นลบ ที่เรียกว่า ‘ระยะเงียบ’ คือ มีการติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ซึ่งผู้ป่วยสามารถติดเชื้อซ้ำได้ ผู้ที่ติดเชื้อสามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้จากการมีเพศสัมพันธ์ หากตรวจหาเชื้อและได้รับการรักษาเบื้องต้น ย่อมลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งปากมดลูกได้

ราคาการฉีดวัคซีนป้องกัน HPV ที่โรงพยาบาลยันฮี

เชื้อไวรัส HPV คืออะไร?

การแพร่กระจายโรค HPV

อาการของผู้ติดเชื้อ HPV

การป้องกันและลดความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส HPV

Q&A หลากคำถาม มีคำตอบ เกี่ยวกับไวรัส HPV

เชื้อไวรัส HPVคืออะไร?

Female Sterilization

‘เชื้อแปปิโลมา’ หรือ ‘เอชพีวี’ (HPV) คือเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง เป็นสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อเนื้อเยื่อบุผิว และก่อโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย ด้วยการสัมผัสเชื้อโดยตรง หรือการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ ผู้ที่มีเชื้อ HPV อยู่ในร่างกาย มักไม่มีอาการแสดงใด ๆ จึงอาจแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งพบเชื้อชนิดนี้มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ สายพันธุ์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมากที่สุดคือ สายพันธุ์ 16 และ 18 ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อเกิดจากพฤติกรรมการสูบบุหรี่ มีคู่นอนหลายคน มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย ตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุน้อย หรือมีบุตรจำนวนมาก ผู้ที่มีแผลหรือรอยขีดข่วนตามผิวหนัง ผู้ที่สัมผัสหูดหรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อโดยไม่ได้สวมถุงมือเพื่อป้องกัน รวมทั้งผู้ที่ใช้สถานที่ที่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย เช่น ห้องอาบน้ำสาธารณะ สระว่ายน้ำ ฯลฯ

การแพร่กระจายโรค HPV

Female Sterilization

การติดเชื้อไวรัส HPV มักติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด ทวารหนัก ปาก โดยแพร่เชื้อผ่านรอยแผล หรือรอยขีดข่วนตามผิวหนัง หรือสัมผัสผิวหนัง รวมทั้งสิ่งปนเปื้อนเชื้อจากผู้ป่วย หญิงตั้งครรภ์ที่มีเชื้อ HPV อาจแพร่เชื้อสู่ลูกระหว่างการคลอดได้ ด้วยการสัมผัสเชื้อโดยตรงหรือการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งผู้ที่มีเชื้อ HPV อยู่ในร่างกายมักไม่แสดงอาการใด ๆ จึงอาจแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว

อาการของผู้ติดเชื้อ HPV

ผู้ที่ติดเชื้อ HPV ส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการ เพราะระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะกำจัดเชื้อไวรัสได้ก่อนเป็นหูด ซึ่งลักษณะของหูดจะแตกต่างตามสายพันธุ์ไวรัส ได้แก่ หูดทั่วไป จะเป็นตุ่มเล็ก ๆ ที่อาจขึ้นตามมือ นิ้ว ข้อศอก มีสีเนื้อ สีขาว สีชมพู สีน้ำตาลอ่อน บริเวณที่พบคือ มือ นิ้วมือ ข้อศอก แม้ไม่อันตราย แต่อาจทำให้เจ็บปวด โดยผิวหนังที่เกิดหูดอาจมีเลือดออกได้ง่าย หูดแบนราบ จะมีสีเข้มกว่าปกติและนูนขึ้นมาเล็กน้อย มีขนาดเล็ก พื้นเรียบ เกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย

Female Sterilization

โดยผู้หญิงมักพบที่ขา ผู้ชายมักพบที่เครา เด็กมักพบที่ใบหน้า หูดบริเวณอวัยวะเพศ หรือหูดหงอนไก่ เป็นติ่งเนื้อคล้ายดอกกะหล่ำที่เกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศหญิง อวัยวะเพศชาย และทวารหนัก มักรู้สึกคัน แต่ไม่เจ็บปวด หูดบริเวณฝ่าเท้า มักขึ้นตรงส้นเท้าหรือเนินปลายเท้า มีลักษณะเป็นตุ่มแข็ง ไม่ว่ายืนหรือเดินจะรู้สึกเจ็บ

การป้องกันและลดความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส HPV

ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุก 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของการตรวจคัดกรอง และตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ทุก 5 ปี หากมีอาการผิดปกติทางนรีเวช ควรเข้ารับการตรวจหรือปรึกษากับสูตินรีแพทย์ ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปี ทั้งนี้ มีวัคซีนทั้งหมด 3 ชนิด คือ

วัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์ (Bivalent vaccine: Cervarix) คือ วัคซีนที่ป้องกันเชื้อไวรัส HPV ได้ 2 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก

วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ (Quadrivalent vaccine: Gardasil) คือ วัคซีนที่ป้องกันเชื้อไวรัส HPV ได้ 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ 6, 11, 16 และ 18 ซึ่งสายพันธุ์ 6 และ 11 ทำให้เกิดหูดหงอนไก่

วัคซีนชนิด 9 สายพันธุ์ (6/11/16/18/31/33/45/52/58)

Female Sterilization

เกณฑ์ในการฉีดวัคซีนจะแบ่งตามช่วงอายุ โดยวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่บรรจุในวัคซีนได้มากกว่า 90% อายุ 9-14 ปี ฉีดจำนวน 2 เข็ม สำหรับอายุ 15 ปี ขึ้นไป ฉีดจำนวน 3 เข็ม

Female Sterilization

ขณะที่วัคซีนชนิด 9 สายพันธุ์ป้องกันโรคในผู้หญิงอายุ 9-45 ปี ทั้งมะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากช่องคลอด และช่องคลอด (Vulvar and vaginal cancers) รอยโรคก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก ปากช่องคลอด ช่องคลอด และทวารหนัก มะเร็งทวารหนัก (Anal cancer) หูดที่อวัยวะเพศ

ราคาการฉีดวัคซีน HPV และตรวจแป๊บสเมียร์ที่โรงพยาบาลยันฮี

ตรวจ Pap Smear (แป๊ปสเมียร์)

1,400 บาท

ตรวจ Thin Prep (ตินเพร็พ)

2,150 บาท

ตรวจด้วยกล้องคอลโปสโคป (COLPOSCOPE)
(ไม่มีชิ้นเนื้อส่งตรวจ)

6,500 บาท

ตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ (BIOPSY CERVIX)
(พร้อมส่งตรวจชิ้นเนื้อ (ขนาดเล็ก))

5,500 บาท

ฉีดวัคซีน HPV ชนิด 4 สายพันธุ์ 1 เข็ม

2,900 บาท

ฉีดวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ 1 เข็ม

7,800 บาท

ฉีดวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ 3 เข็ม

19,000 บาท

Q&A หลากคำถาม มีคำตอบ เกี่ยวกับ‘เชื้อไวรัส HPV’

ถาม
ตอบ

ผู้ชายมีความเสี่ยงติดไวรัส HPV เหมือนผู้หญิงหรือไม่?

ผู้ชายสามารถติดเชื้อ HPV ได้เหมือนผู้หญิง ผู้ชายสามารถติดเชื้อ HPV จากคู่นอนได้ แม้ว่าผู้ชายจะไม่สามารถเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ และหากไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงที่มีเชื้อ HPV อยู่ก่อนแล้ว ก็อาจเป็นการแพร่เชื้อไปสู่คู่นอนคนอื่น ๆ ได้ และเชื้อไวรัส HPV สามารถติดได้ทุกช่องทางการมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะการทำออรัลเซ็กส์ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งในลำคอ และการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ก็ยังอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่ โรคมะเร็งองคชาติ โรคมะเร็งทวารหนักได้เช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อไวรัส HPV ได้

ถาม
ตอบ

วิธีรักษาหากติดเชื้อ HPV ทำอย่างไร?

หากติดเชื้อ HPV วิธีรักษาขึ้นอยู่กับอาการที่พบเป็นสำคัญ โดยผู้ที่เป็นหูดจะรักษาโดยใช้ยา ส่วนผู้ที่เป็นมะเร็งอาจต้องฉายรังสีหรือผ่าตัด

ถาม
ตอบ

หากพบเชื้อ HPV ในร่างกายควรทำอย่างไร?

ไม่ควรตื่นตระหนก เพราะอาจยังไม่ใช่สายพันธุ์ที่ก่อมะเร็ง ติดตามการตรวจตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ผิดปกติหรือไม่ สวมถุงยางอนามัยหากต้องการมีเพศสัมพันธ์แม้กระทั่งคู่สมรสของตนเองก็ตาม งดสูบบุหรี่

เกร็ดความรู้

เพิ่มเติม