chat

วัคซีนลูกน้อยขวบปีแรก

วัคซีนลูกน้อยขวบปีแรก


เด็กเอ๋ย เด็กน้อย …ภูมิคุ้มกันเจ้ายังด้อยต้อง “สร้างเสริม”

ขอแสดงความยินดีกับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ด้วยนะคะ หลังจากที่รอคอยมาแสนนานถึง 9 เดือน และแล้วเจ้าตัวน้อยก็ได้ถือกำเนิดลืมตาขึ้นมาดูโลก ครอบครัวหลายคนอาจกำลังปลื้มปริ่มกับสมาชิกตัวน้อยอยู่ แต่อย่าลืมเตรียมความพร้อมในการป้องกันโรคต่างๆ ให้กับลูกน้อยที่กำลังเติบโตมาด้วยนะคะ เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องการฉีดวัคซีนเด็กแรกเกิดในช่วง 1 ขวบปีแรกถือเป็นช่วงที่ลูกน้อยยังมีความบอบบาง และมีโอกาสติดเชื้อโรคได้ง่าย ดังนั้นการฉีดวัคซีนจึงเสมือนปราการด่านหนึ่งที่จะช่วยปกป้องลูกน้อยจากเชื้อโรคร้ายแรงต่างๆได้ โดยวัคซีนพื้นฐานที่เจ้าตัวน้อยทุกคนต้องฉีดคือ วัคซีนรวม 6 โรค ประกอบด้วย

โรคคอตีบ เป็นโรคติดต่อที่ร้ายแรงและอันตรายถึงชีวิต แถมยังติดต่อได้ง่ายมากโดยการไอจามรดกัน โดยพิษของเชื้อคอตีบจะทำให้เกิดการอักเสบในลำคออย่างรุนแรงจนอาจเสียชีวิตจากการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบน และหากพิษเข้าสู่กระแสเลือดอาจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเป็นอันตรายถึงชีวิต

โรคไอกรน เป็นโรคติดต่อของระบบทางเดินหายใจ ทำให้มีอาการไออย่างรุนแรง หรือไอเป็นชุดติดๆ กัน จนทำให้หายใจไม่ทัน บางครั้งอาจไอเรื้อรังนานถึง 3 เดือน ถ้าเป็นในเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 6 เดือนอาการมักรุนแรง อาจไอจนหยุดหายใจหรือชักได้

 โรคบาดทะยัก เชื้อบาดทะยักมีอยู่ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม หากลูกน้อยรับเชื้อเข้าไปทางบาดแผล เชื้อจะปล่อยสารพิษออกมาทำลายระบบประสาท ทำให้มีอาการเกร็งกระตุกของกล้ามเนื้อขากรรไกร กินอาหารลำบาก หายใจลำบาก จนถึงขั้นร้ายแรงสุดคือเสียชีวิตได้

โรคโปลิโอ เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายของลูกน้อยโดยการรับประทานอาหาร หรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ อาการคือ มีแขนขาอ่อนแรงทำให้พิการ รุนแรงสุดคืออาจทำให้เสียชีวิตจากกล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจเป็นอัมพาต

โรคไวรัสตับอักเสบบี สามารถติดต่อจากคุณแม่สู่ลูกน้อยได้ หากลูกน้อยติดเชื้อจะทำให้มีตัวเหลือง อ่อนเพลีย และถ้าร่างกายไม่อาจกำจัดเชื้อได้ ลูกก็จะกลายเป็นพาหะของโรค ทำให้เกิดโรคตับแข็ง และมะเร็งตับในอนาคตได้

เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อฮิบ เชื้อฮิบเป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคสําคัญหลายอย่าง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ติดเชื้อในกระแสเลือด ปอดอักเสบ ข้ออักเสบ และหูชั้นกลางอักเสบ มักก่อโรคในเด็กเล็กโดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 2 ขวบ เชื้อฮิบจะอยู่ในระบบทางเดินหายใจของคนเรา และแพร่กระจายจากคนสู่คนผ่านทางละอองในอากาศและการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งของทางเดินหายใจ

พูดมาแต่ละโรคนี่ ฟังแล้วไม่น่าพิสมัยเอาเสียเลย คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากเห็นเจ้าตัวน้อยต้องเผชิญกับโรคร้ายที่ป้องกันได้เหล่านี้กันใช่มั้ยคะ ดังนั้นวัคซีนทั้ง 6 โรคจึงมีความจำเป็นต่อลูกน้อยของคุณ สมัยนี้วัคซีนจะรวมอยู่ในเข็มเดียวกัน สะดวกสบาย ลูกน้อยไม่ต้องเจ็บตัวหลายครั้งให้พ่อแม่ปวดใจด้วย โดยเข็มแรกนั้นจะฉีดเมื่ออายุครบ 2 เดือน และจะฉีดกระตุ้นเข็มที่สองตอน 4 เดือน และอีกครั้งเมื่อเจ้าตัวน้อยครบ 6 เดือน

นอกจากวัคซีนรวม 6 โรคดังกล่าวแล้ว เมื่อถึงช่วง 9 – 12 เดือน คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกน้อยไปฉีดวัคซีนหัด คางทูม หัดเยอรมัน เนื่องจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิด 3 โรคนี้สามารถติดต่อได้ง่ายทางระบบทางเดินหายใจและพบได้บ่อยในเด็กเล็ก

ช่วงขวบปีแรกนี้ยังมีวัคซีนทางเลือกที่น่าสนใจบางตัวที่อยากแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้จักเอาไว้ เช่น วัคซีนป้องกันไวรัสโรต้า เนื่องจากไวรัสตัวนี้เป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงอย่างรุนแรงในทารกและเด็กเล็ก จะระมัดระวังก็ยากอยู่เพราะไวรัสโรต้ามีขนาดเล็กมากมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น และติดต่อกันได้ง่ายจากการสัมผัส เวลาที่เจ้าตัวน้อยคลานหรือเล่น อาจมีเชื้อปนเปื้อนอยู่ที่สิ่งของ เมื่อจับแล้วนำเข้าปาก จะทำให้เชื้อกระจายเข้าสู่ร่างกายได้ทันที แถมเชื้อโรคตัวนี้ค่อนข้างทน และมีชีวิตอยู่ได้หลายวัน ดังนั้น การให้วัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดจะช่วยลดความรุนแรงจากการติดเชื้อไวรัสโรต้าได้

วัคซีนไอพีดี เป็นอีกหนึ่งวัคซีนทางเลือกที่อยากแนะนำเช่นกัน เนื่องจากเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบทุกคนมีโอกาสเสี่ยงต่อการติด 2 เชื้อร้ายคือ เชื้อนิวโมคอคคัส และ เชื้อเอ็นทีเอชไอ (NTHi) ที่ทำให้เกิด 3 โรคอันตรายดังนี้

โรคไอพีดี เป็นโรคติดเชื้อรุนแรงที่ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และโรคติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเด็กที่ติดเชื้อโรคนี้แล้วอาจจะมีโอกาสเสียชีวิตหรือมีความพิการทางสมองได้

โรคปอดอักเสบ ข้อมูลจาก WHO และ UNICEF พบว่า โรคปอดอักเสบเป็นสาเหตุอันดับ 1ของโลกที่ทำให้เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีเสียชีวิต และภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายของโรคนี้คือ ติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง และอาจมีภาวะช็อก

โรคหูชั้นกลางอักเสบ เป็นโรคที่คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่มักมองข้าม เพราะเด็กเล็กไม่สามารถพูดบอกได้ เมื่อรักษาไม่ทันท่วงทีก็อาจทำให้ลูกเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรังหรือหูน้ำหนวก มีความพิการทางการได้ยินตามมา นอกจากนั้นอาจนำไปสู่โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือฝีในสมองได้

ขอแถมท้ายวัคซีนทางเลือกอีกสักตัว นั่นก็คือ วัคซีนเอชพีวี หรือ วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก วัคซีนตัวนี้ไม่ได้ฉีดในช่วงขวบปีแรกเหมือนวัคซีนที่กล่าวไปข้างต้นนะคะ แต่แนะนำให้ฉีดในเด็กผู้หญิงอายุ 11 -12 ปี คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจร้องปรี๊ดอยู่ในใจ เอ๊ะ…อายุขนาดนั้นยังเด็กอยู่เลย แล้วลูกชั้นก็ไม่ได้ไปมีความสัมพันธ์ทางเพศกับใคร จะฉีดไปเพื่ออะไร?

ขออธิบายให้เข้าใจง่ายๆดังนี้ค่ะ เนื่องจากมะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งติดต่อได้ง่ายมากทางเพศสัมพันธ์ และพบว่าอัตราการติดเชื้อจะสูงที่สุดในวัยรุ่นตอนต้นหรือวัยที่เริ่มมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้น การให้ลูกของคุณฉีดวัคซีนตั้งแต่ก่อนเข้าสู่วัยรุ่นจึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยปกป้องลูกสาวของคุณจากมะเร็งปากมดลูกในอนาคตข้างหน้า และการฉีดวัคซีนในช่วงนี้เด็กยังจะได้รับประโยชน์สูงสุด เนื่องจากเด็กสามารถสร้างภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้สูงกว่าผู้ใหญ่มาก ประเทศในยุโรปหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักรก็เห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีนนี้ตั้งแต่ยังเด็ก รัฐบาลถึงกับจัดให้เด็กผู้หญิงอายุ 12 – 13 ปี ฉีดวัคซีนเอชพีวีเพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรีทุกคน นำมาเล่าสู่กันฟังเผื่อไว้เป็นทางเลือก ถ้ายังมีข้อสงสัยก็ลองสอบถามจากคุณหมอได้ค่ะ

การรับวัคซีนเข้าสู่ร่างกายจึงเป็นวิธีป้องกันโรคที่ได้ผลดีที่สุด ซึ่งก็มีทั้งแบบฉีดและแบบรับประทาน โดยคุณแม่ต้องใส่ใจเตรียมตัวลูกน้อยให้พร้อมก่อนไปรับวัคซีนทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่าลืมนำสมุดบันทึกการรับวัคซีนไปด้วยนะคะ เพื่อแพทย์จะได้ดูว่าฉีดวัคซีนตัวใดไปแล้วบ้าง ซึ่งอาการหลังฉีดนั้น เด็กบางคนอาจมีไข้ มีผื่น หรืออาการบวมแดงซึ่งเป็นผลข้างเคียงของวัคซีนบางตัวเท่านั้น ส่วนใหญ่จะไม่รุนแรง มักเป็น 2-3 วันแล้วก็หาย

อย่างไรก็ตามอาการแพ้วัคซีนขั้นรุนแรง หรือมีอาการแทรกซ้อนหลังรับวัคซีนอาจเกิดขึ้นได้ คุณแม่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้ง และควรเก็บสมุดเอาไว้จนลูกโต อย่างน้อย 15 ปี เพื่อที่จะได้ตรวจสอบได้ว่า ลูกเราได้รับวัคซีนตัวใดไปแล้วบ้าง หรือต้องฉีดวัคซีนตัวใดเพื่อกระตุ้นเป็นระยะนะคะ

การฉีดวัคซีนจะช่วยลดการเจ็บป่วยที่ไม่จำเป็น เราคงไม่อยากเห็นลูกหลานต้องมาเผชิญโรคร้าย ๆ ที่รู้ทั้งรู้ว่าป้องกันได้ ถึงเวลานั้นเราเป็นพ่อแม่ก็คงรู้สึกผิดที่ไม่เอาใจใส่เขาตั้งแต่ต้น  แต่คิดได้ก็อาจสายเสียแล้ว  ยอมให้เจ้าตัวน้อยเจ็บตัวเล็กน้อยตอนฉีดวัคซีนดีกว่าต้องเสี่ยงภัยกับโรคร้ายต่าง ๆ ดีกว่าค่ะ

ค่ารักษา

เพิ่มเติม
การรักษา ราคา(บาท)
Package วัคซีนสำหรับเด็กอายุ 1-2 ปี (อีสุกอีไส,คอตีบ,ไอกรน,บาดทะยัก,โปลิโอ,เยื่อหุ้มสมองอักเสบ,ไข้สมองอักเสบ) 5,900 บาท
Package วัคซีนป้องกันโรคไวรัสโรต้า 2 ครั้ง 1,800 บาท
Package วัคซีนป้องกันโรคไวรัสโรต้า 3 ครั้ง 2,400 บาท
Package Prevnar 3 เข็ม (ป้องกันโรคไอพีดี) 8,000 บาท
Package Prevnar 4 เข็ม (ป้องกันโรคไอพีดี) 10,600 บาท
Package วัคซีนไวรัสตับอักเสบ ชนิดเอ 2 เข็ม 2,200 บาท
อัตราค่ารักษาพยาบาล แพทย์ที่ทำการรักษาเป็นผู้ประเมิน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1723
การรักษา
Package วัคซีนสำหรับเด็กอายุ 1-2 ปี (อีสุกอีไส,คอตีบ,ไอกรน,บาดทะยัก,โปลิโอ,เยื่อหุ้มสมองอักเสบ,ไข้สมองอักเสบ)
5,900 บาท
Package วัคซีนป้องกันโรคไวรัสโรต้า 2 ครั้ง
1,800 บาท
Package วัคซีนป้องกันโรคไวรัสโรต้า 3 ครั้ง
2,400 บาท
Package Prevnar 3 เข็ม (ป้องกันโรคไอพีดี)
8,000 บาท
Package Prevnar 4 เข็ม (ป้องกันโรคไอพีดี)
10,600 บาท
Package วัคซีนไวรัสตับอักเสบ ชนิดเอ 2 เข็ม
2,200 บาท
อัตราค่ารักษาพยาบาล แพทย์ที่ทำการรักษาเป็นผู้ประเมิน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 1723

เกร็ดความรู้

เพิ่มเติม