chat

รีแพร์ กระชับช่องคลอด คืนความมั่นใจให้ผู้หญิง

รีแพร์

>> คลิกดูรีวิว <<

รีแพร์ กระชับช่องคลอด คืนความมั่นใจให้ผู้หญิง

การคบหาดูใจและการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน นอกจากความรัก ความเข้าใจแล้ว ความสุขทางเพศก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีความสำคัญ หากคุณและคนรักมีความสุขด้วยกันทั้งคู่ก็นับว่าโชคดี แต่บางคู่อาจมีปัญหาในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ โดยมีสาเหตุมาจากผู้หญิงมีปัญหาช่องคลอดหลวม ซึ่งนับเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้หญิงทุกคน เพราะนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังส่งผลต่ออารมณ์และจิตใจด้วย

ในบางครั้งผู้หญิงรู้ตัวเองดีว่ามีปัญหาช่องคลอดหลวมแต่ด้วยความอายจึงไม่กล้าเปิดเผย ในบางครั้งผู้ชายอาจไม่กล้าพูดเพราะกลัวผู้หญิงเสียใจ กลัวทำให้ผู้หญิงหมดความมั่นใจ ในกรณีนี้หากปล่อยทิ้งไว้เรื่องก็อาจบานปลายกลายเป็นปัญหาครอบครัวขึ้นมาได้ คนจำนวนมากจึงให้ความสนใจกับการทำรีแพร์ เพราะเป็นวิธีที่จะช่วยทำให้มีความสุขในเรื่องเพศมากขึ้น

รีแพร์ (Repair) หรือ การซ่อมแซม คือ การผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่หย่อนยานภายในช่องคลอดให้กระชับขึ้น เพื่อให้ขนาดหรือเส้นผ่าศูนย์กลางของช่องคลอดเล็กลงและเกิดการหดรัดที่ดีกว่าเดิม โดยเป็นการผ่าตัดตลอดแนวความลึกของช่องคลอด รวมถึงการผ่าตัดตกแต่งเนื้อเยื่อและผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดด้วย

ช่องคลอดหลวม เกิดจากภาวะ อุ้งเชิงกรานหย่อน หรือ ภาวะ กระบังลมหย่อน สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน ได้แก่ การมีเพศสัมพันธ์มาเป็นเวลานาน การตั้งครรภ์ การคลอดบุตรทางช่องคลอด การคลอดบุตรหลายคน รวมถึงบุตรมีตัวโต การทำคลอดไม่ถูกวิธี อายุที่มากขึ้น ภาวะอ้วน-ผอม ผู้ที่ต้องออกแรงเกร็งช่องท้องเป็นประจำ เช่น การยกของหนัก ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น ไอเรื้อรัง ท้องผูกเรื้อรัง มีก้อนในช่องท้อง ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง รวมถึงผู้ที่อยู่ใน วัยทอง 

หากละเลยและทนอยู่กับปัญหานี้ไปเรื่อยๆ จะเป็นการบั่นทอนความรู้สึก ทำให้ขาดความมั่นใจในตนเอง ไม่มีความสุขในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้เกิดปัญหา ไอจาม ปัสสาวะเล็ด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่อยากเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ หลีกเลี่ยงการเข้าสังคม ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง

ดังนั้น จึงจะเห็นได้ว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เข้ารับการผ่าตัดทำรีแพร์จะมีอายุประมาณ 30-50 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการแต่งงานและผ่านการคลอดบุตรมาแล้ว โดยจะเป็นการผ่าตัดในแง่ของการศัลยกรรมตกแต่งเพื่อความสวยงามและความมั่นใจ สำหรับผู้หญิงอายุ 60 ปีขึ้นไปหรือวัยทอง จะเป็นการผ่าตัดในแง่ของการรักษาภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนนั่นเอง

รีแพร์4

ภาวะ อุ้งเชิงกรานหย่อน หรือ ภาวะ กระบังลมหย่อน มี 3 แบบ ได้แก่

1. การหย่อนคล้อยของผนังช่องคลอดส่วนหน้า ซึ่งจะมีกระเพาะปัสสาวะหย่อนตาม หรือ กระเพาะปัสสาวะหย่อน (Cystocele) ทำให้เกิดอาการปวดหน่วงในอุ้งเชิงกราน หรือมีก้อนจุกที่ปากช่องคลอด ในกรณีนี้ แพทย์จะทำการแก้ไขด้วยการผ่าตัดรีแพร์ผนังช่องคลอดส่วนหน้า (Anterior Vaginal Repair)

2. การหย่อนคล้อยของผนังช่องคลอดส่วนหลัง ซึ่งจะมีลำไส้ส่วนทวารหนักหย่อนตาม หรือ ลำไส้หย่อน (Rectocele) ทำให้เกิดอาการปวดหน่วงในอุ้งเชิงกราน หรือมีก้อนจุกที่ปากช่องคลอด รวมถึงท้องผูก เพราะผนังที่ยื่นเป็นถุงเข้าไปทางช่องคลอดจะทำให้การขับถ่ายผิดปกติ ในกรณีนี้ แพทย์จะทำการแก้ไขด้วยการผ่าตัดรีแพร์ผนังช่องคลอดส่วนหลัง (Posterior Vaginal Repair)

3. มีการหย่อนคล้อยของผนังช่องคลอดทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง ในกรณีนี้ แพทย์จะทำการแก้ไขด้วยการผ่าตัดรีแพร์ผนังช่องคลอดทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง (A-P Repair หรือ Anterior-Posterior Vaginal Repair)

รีแพร์ หรือ กระชับช่องคลอด คือการผ่าตัดเลาะผนังช่องคลอดและเนื้อเยื่อส่วนเกินทิ้ง และเย็บแผลด้วยไหมละลาย เพื่อให้ช่องคลอดมีขนาดเล็กลง กระชับขึ้นกว่าเดิม

สำหรับในกรณีที่ผู้ป่วยมีการหย่อนยานของผนังช่องคลอดทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง แพทย์จะทำการผ่าตัดรักษา กระบังลมหย่อน เรียกว่า A-P Repair หรือ Anterior-Posterior Vaginal Repair โดยเป็นการผ่าตัดนำผนังช่องคลอดทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง และเนื้อเยื่อส่วนเกินที่ยื่นเข้าไปในช่องคลอดออกไป รวมทั้งตกแต่งกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ส่วนปลายที่หย่อนคล้อย เพื่อให้เนื้อเยื่อและอวัยวะในอุ้งเชิงกรานกลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิม ทำให้ภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนดีขึ้นและช่องคลอดกระชับขึ้น

รีแพร์2

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัดทำรีแพร์ เช่น เสียเลือดมาก เกิดการติดเชื้อ ผนังกระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้ทะลุ หากผ่าตัดบริเวณฝีเย็บสูงเกินไปอาจทำให้เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ อวัยวะเพศอาจผิดรูปร่างไปทำให้ไม่เป็นที่พอใจได้ เป็นต้น สำหรับผู้ที่ไม่สามารถทำรีแพร์ ได้ คือ ผู้ป่วยเบาหวาน เพราะแผลอักเสบและติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ, ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศภายใน 1 สัปดาห์ และผู้ที่มีอาชีพที่ต้องเดินทางบ่อยๆ เพราะ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัดเสี่ยงต่อการเกิดแผลแยก แผลอักเสบ และฉีกขาด

ปัจจุบันมีการนำเลเซอร์ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่มาใช้ในการกระชับช่องคลอด ทั้งนำมาใช้แทนการผ่าตัดทั่วไป และการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดโดยไม่ผ่าตัด สำหรับการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ แพทย์จะทำการผ่าตัดบริเวณผนังช่องคลอดด้านหลัง โดยตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินของผนังช่องคลอดออก เพื่อให้ช่องคลอดมีขนาดเล็กลง ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง การผ่าตัดด้วยเลเซอร์ช่วยลดการสูญเสียเลือดและลดความบอบช้ำของเนื้อเยื่อลงได้มาก เจ็บน้อยกว่าและฟื้นตัวเร็วกว่า

สำหรับการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดโดยไม่ผ่าตัดนั้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาช่องคลอดหลวม แต่ไม่มีปัญหา ไอจาม ปัสสาวะเล็ด โดยการนำหัวเลเซอร์สอดเข้าไปในช่องคลอด แล้วปล่อยพลังงานเลเซอร์ออกมาในคลื่นความยาวที่เหมาะสม ตลอดแนวความลึกของช่องคลอด เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ทำให้กล้ามเนื้อช่องคลอดมีความตึงตัวขึ้น ผนังช่องคลอดหดเล็กลง มีความแข็งแรงและกระชับขึ้น เป็นการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่มีการสูญเสียเลือดและไม่มีอาการปวดใดๆ โดยมีการวัดความตึงตัวของช่องคลอดทั้งก่อนและหลังทำ จึงสามารถเห็นถึงผลของการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดได้ ทั้งนี้ ผลการรักษาขึ้นกับสภาพปัญหาของแต่ละบุคคล

การทำรีแพร์ควรทำในช่วงที่ประจำเดือนหมดไม่เกิน 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการอักเสบของแผลและการปนเปื้อนของเลือดในระหว่างการผ่าตัด ควรตรวจภายในและตรวจมะเร็งปากมดลูกให้เรียบร้อย เนื่องจากหลังผ่าตัดจำเป็นจะต้องงดตรวจไปสักระยะหนึ่ง เพื่อเป็นการป้องกันแผลผ่าตัดถูกกระทบกระเทือน ผู้ป่วยต้องงดน้ำและอาหารก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง

การผ่าตัดกระชับช่องคลอดเพียงอย่างเดียวเป็นการผ่าตัดเล็ก แพทย์จะให้ยานอนหลับเพื่อให้ผู้ป่วยคลายความกังวล ใช้เวลาในการผ่าตัด 1 ชั่วโมง หลังผ่าตัดผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้โดยไม่ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล สำหรับการผ่าตัดแก้ไขช่องคลอดหย่อนยานจากภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนเป็นการผ่าตัดใหญ่ แพทย์จะวางยาสลบหรือให้ยาชาทางไขสันหลัง ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 2 ชั่วโมง หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 3-4 วัน

รีแพร์3

หลังทำ รีแพร์ ผู้ป่วยต้องงดการมีเพศสัมพันธ์ 2 เดือน งดออกกำลังกาย 1 เดือน ไม่ยกของหนัก พยายามเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด เดินให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันแผลแยกและเกิดการอักเสบ พักผ่อนให้มาก รับประทานอาหารได้ตามปกติ งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทำความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัดด้วยน้ำสะอาดในเวลาเช้า-เย็น รวมถึงหลังจากปัสสาวะ-อุจจาระทุกครั้ง และกลับมาพบแพทย์ตามนัด การทำรีแพร์ เป็นการผ่าตัดในบริเวณที่มีเลือดไหลเวียนมาหล่อเลี้ยงมาก ดังนั้น หลังผ่าตัดและแผลแห้งสนิทดีแล้ว จึงไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็น

การทำ รีแพร์ เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยกระชับช่องคลอดหลวม จากภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน แต่ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ปลอดภัย ไม่เจ็บตัว และเป็นธรรมชาติ ทั้งเป็นการป้องกันช่องคลอดหลวมและเป็นการรักษาในเบื้องต้น นั่นคือออกกำลังกายอุ้งเชิงกรานโดยการฝึกขมิบช่องคลอด อาจเริ่มจากวันละ 10 ครั้ง จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มขึ้น เป็นวันละ 50-100 ครั้ง หรือทำให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการขมิบช่องคลอดสามารถทำได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ทำงานหรือที่บ้าน

สำหรับคนที่มีปัญหาช่องคลอดหลวม จากภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนมากแล้ว อาจต้องทำรีแพร์ ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่ละเอียดอ่อน ดังนั้น คุณผู้หญิงควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับคนรักก่อนตัดสินใจทำรีแพร์ ต้องเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำศัลยกรรมตกแต่งช่องคลอดและอุ้งเชิงกรานโดยเฉพาะ เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีหลังการผ่าตัด

การทำรีแพร์จะกลับมาเหมือนตอนยังไม่มีเพศสัมพันธ์หรือไม่
การทำรีแพร์จะช่วยให้ช่องคลอดของท่านกลับมากระชับขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น แต่ความกระชับก็ไม่ได้เท่ากับคนที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน
   
  —————————————————-
ทำรีแพร์แล้วจะอยู่ถาวรหรือไม่
หลังทำรีแพร์ไปแล้วเมื่อเวลาผ่านไป ช่องคลอดก็อาจกลับมาไม่กระชับหรือหลวมได้อีก ด้วยปัจจัยต่างๆ อาทิ มีเพศสัมพันธ์บ่อยหรือมีเพศสัมพันธ์ต่อเนื่องยาวนาน หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ, ฮอร์โมน รวมถึงมีวัยเพิ่มมากขึ้น
  —————————————————-
อายุมากแล้ว สามารถทำรีแพร์ได้หรือไม่
สามารถทำรีแพร์ได้ แต่ในผู้ป่วยแต่ละท่าน ความตึง ความกระชับของช่องคลอดหลังทำผ่าตัดรีแพร์อาจจะได้ผลมากหรือน้อยไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละท่าน
  —————————————————-
เคยทำรีแพร์มาแล้ว สามารถทำอีกครั้งได้หรือไม่
สามารถทำได้ หากกลับมามีภาวะผนังช่องคลอดหย่อนคล้อยซ้ำ แต่การผ่าตัดครั้งหลังจะเริ่มมีข้อจำกัด โดยแพทย์อาจไม่สามารถทำผ่าตัดช่องคลอดได้ความความลึกมากเท่ากับที่ผ่าตัดครั้งแรก เนื่องจากอาจมีพังผืดเหนี่ยวรั้งลำไส้ขึ้นไปติดกับผนังช่องคลอดที่เคยทำผ่าตัดมาแล้ว เมื่อไม่สามารถทำผ่าตัดได้ลึกมาก ความกระชับที่ได้จึงอาจไม่ได้ตามต้องการอย่างเต็มที่
  —————————————————-
ถ้าผ่าคลอดจำเป็นต้องทำรีแพร์หรือไม่
คนที่ผ่าคลอดโดยไม่เคยคลอดบุตรทางช่องคลอด หากมีปัจจัยต่างๆ อาทิ มีเพศสัมพันธ์บ่อย หรือมีเพศสัมพันธ์ต่อเนื่องยาวนาน หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย, มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ, มีวัยเพิ่มมากขึ้น หรือมีพฤติกรรมบางอย่างเป็นประจำ เช่น ท้องผูก ไอเรื้อรัง ยกของหนัก เป็นต้น ก็อาจทำให้ช่องคลอดไม่กระชับหรือหลวมได้ ซึ่งท่านสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อทำรีแพร์ได้ อย่างไรก็ตาม ในคนที่ผ่าคลอด ปัญหาช่องคลอดหลวมอาจจะเกิดช้ากว่าคนที่เคยผ่านการคลอดบุตรมาก่อน
  —————————————————-
ถ้าไม่เคยมีลูกจำเป็นต้องทำรีแพร์หรือไม่
ถึงจะไม่เคยมีลูกมาก่อน แต่หากมีปัจจัยต่างๆ อาทิ มีเพศสัมพันธ์บ่อย หรือมีเพศสัมพันธ์ต่อเนื่องยาวนาน หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย, มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ, มีวัยเพิ่มมากขึ้น หรือมีพฤติกรรมบางอย่างเป็นประจำ เช่น ท้องผูก ไอเรื้อรัง ยกของหนัก เป็นต้น ก็อาจทำให้ช่องคลอดไม่กระชับหรือหลวมได้ ซึ่งท่านสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อทำรีแพร์ได้ อย่างไรก็ตาม ในคนที่ไม่เคยมีลูกมาก่อน ปัญหาช่องคลอดหลวมอาจจะเกิดช้ากว่าคนที่เคยผ่านการคลอดบุตร
  —————————————————-
ทำรีแพร์ไปแล้ว แฟนใหม่จะรู้หรือไม่ว่าเราเคยทำรีแพร์มาก่อน
หลังการทำรีแพร์และพักฟื้นจนกระทั่งแผลหายสนิท ผู้ชายจะไม่สามารถรู้หรือรู้สึกได้ว่าท่านเคยผ่านการทำรีแพร์มาก่อน เนื่องจากในช่องคลอดเป็นบริเวณที่มีเลือดไหลเวียนมาหล่อเลี้ยงมาก จึงไม่มีรอยแผลเป็นและไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้ให้เป็นที่คาใจ
  —————————————————-
รีแพร์แก้ปัญหาปัสสาวะเล็ดซึมได้หรือไม่
แก้ไขได้ ด้วยการทำ A-P รีแพร์ ซึ่งเป็นการผ่าตัดเอาผนังช่องคลอดและเนื้อเยื่อส่วนเกินทั้งด้านหน้าและด้านหลังของผนังช่องคลอดที่ยื่นเข้าไปในช่องคลอดออกไป รวมทั้งการตกแต่งกระเพาะปัสสาวะและลำไส้หย่อน ด้วยวิธีการนี้จะทำให้ภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนดีขึ้น ทั้งนี้ในกรณีของการรักษาเรื่องภาวะไอ จามปัสสาวะเล็ดนั้น การผ่าตัด A-P รีแพร์ไม่สามารถรักษาอาการดังกล่าวได้ถาวร ผู้ป่วยมีโอกาสที่จะมีปัสสาวะเล็ดได้อีกภายในเวลา 5 ปีหลังการผ่าตัด
  —————————————————-
การทำรีแพร์ จะต้องวัดขนาดของแฟนมาหรือไม่
ไม่จำเป็น เนื่องจากแพทย์จะรีแพร์หรือกระชับช่องคลอดให้มีขนาดหรือไซส์ปกติทั่วไป
  —————————————————-
แผลที่ทำรีแพร์ สามารถโดนน้ำได้หรือไม่
ได้ แนะนำให้ดูแลแผลผ่าตัดบริเวณปากช่องคลอดดังนี้
• ฟอกสบู่ขณะอาบน้ำในตอนเช้าและ/หรือก่อนนอน
• ทำความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัดหลังปัสสาวะ โดยการซับด้วยทิชชูเปียก (Sanitary Wipes)
• ทำความสะอาดหลังการถ่ายอุจจาระ โดยการล้างผ่านน้ำเปล่าแล้วซับเบาๆ ให้แห้ง
  —————————————————-
หลังทำรีแพร์ จะต้องหยุดงานกี่วัน
หลังทำรีแพร์ควรหยุดงานอย่างน้อย 3-5 วัน ในช่วงผู้ป่วยจะมีความรู้สึกปวดหน่วงๆบริเวณก้น คล้ายอั้นอุจจาระหรืออั้นปัสสาวะ อาการปวดหน่วงๆดังกล่าวมักจะมีอยู่ประมาณ 3-4 วัน หลังจากนั้นอาการปวดจะน้อยลงอย่างมาก
  —————————————————-
เวลามีเพศสัมพันธ์แล้วมีลมออก มีวิธีแก้ไขได้อย่างไร
การแก้ไขขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ ถ้ามีลมออกเพราะช่องคลอดไม่กระชับสามารถแก้ไขด้วยการทำรีแพร์ แต่ถ้ามีลมออกเนื่องจากสาเหตุอื่นแพทย์จะทำการแก้ไขไปตามสาเหตุนั้นๆ ดังนั้นแพทย์จะต้องซักประวัติและตรวจภายในเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุก่อน
  —————————————————-
การทำรีแพร์โดยวิธีผ่าตัดด้วยเลเซอร์กับผ่าตัดด้วยใบมีด ผลที่ได้รับจะเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ผลที่ได้คือช่วยให้ช่องคลอดกระชับไม่ต่างกัน เพียงแต่การผ่าตัดโดยใช้เลเซอร์อาจมีข้อดีในเรื่องของการสูญเสียเลือดที่น้อยกว่าและความแม่นยำในการผ่าตัดมีมากกว่า
  —————————————————-
วิธีการทำรีแพร์แบบเลเซอร์มีเลือดออกหรือไม่
มีเลือดออกแต่ไม่มากเท่าการผ่าตัดแบบใช้ใบมีด และความบอบช้ำของเนื้อเยื่อจะน้อยกว่าด้วย
  —————————————————-

ค่ารักษา

เพิ่มเติม
การรักษา ราคา(บาท)
A-P รีแพร์ (ดมยา) 3 คืน 66,000 บาท
A-P รีแพร์ ด้วยเลเซอร์ (ดมยา) 3 คืน 78,000 - 103,000 บาท
รีแพร์ตกแต่งช่องคลอด (ไม่ดมยา) 25,500 บาท
รีแพร์ตกแต่งช่องคลอด (ดมยา) 50,500 บาท
รีแพร์ ด้วยเลเซอร์ (ไม่ดมยา) 35,500 บาท
รีแพร์ ด้วยเลเซอร์ (ดมยา) 55,500 บาท
ตกแต่งปากช่องคลอด (ไม่ดมยา) 26,500 บาท
ตกแต่งปากช่องคลอด ด้วยเลเซอร์ (ไม่ดมยา) 26,500 บาท
เลเซอร์กระชับช่องคลอดโดยไม่ต้องผ่าตัด 30,500 บาท
การรักษา
A-P รีแพร์ (ดมยา)
3 คืน
66,000 บาท
A-P รีแพร์ ด้วยเลเซอร์ (ดมยา)
3 คืน
78,000 - 103,000 บาท
รีแพร์ตกแต่งช่องคลอด (ไม่ดมยา)
25,500 บาท
รีแพร์ตกแต่งช่องคลอด (ดมยา)
50,500 บาท
รีแพร์ ด้วยเลเซอร์ (ไม่ดมยา)
35,500 บาท
รีแพร์ ด้วยเลเซอร์ (ดมยา)
55,500 บาท
ตกแต่งปากช่องคลอด (ไม่ดมยา)
26,500 บาท
ตกแต่งปากช่องคลอด ด้วยเลเซอร์ (ไม่ดมยา)
26,500 บาท
เลเซอร์กระชับช่องคลอดโดยไม่ต้องผ่าตัด
30,500 บาท

เกร็ดความรู้

เพิ่มเติม