chat

ผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดหัวใจ

ผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดหัวใจ

ผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดหัวใจ

พอพูดถึงโรคหัวใจ เป็นใครได้ยินก็คงไม่อยากเป็นทั้งนั้น เพราะเป็นโรคที่สามารถคร่าชีวิตของคนเราได้อย่างเฉียบพลันและยังเป็นโรคที่คนไทยเป็นจำนวนไม่น้อยอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันก็มีวิวัฒนาการและการรักษาหลายแบบที่เข้ามาช่วยให้อัตราการตายที่มาจากโรคหัวใจลดน้อยลง และหนึ่งในวิธีการรักษานั้นก็คือ “ผ่าตัดบายพาส”

ต้องอธิบายก่อนว่า คำว่า โรคหัวใจ นั้นสามารถแบ่งได้เป็นกลุ่มที่เป็นตั้งแต่กำเนิดและกลุ่มที่เป็นในภายหลัง ซึ่งทั้ง 2 กลุ่ม จะแยกย่อยไปอีกหลายๆโรคด้วยกัน ในปัจจุบันโรคหัวใจชนิดที่เราให้ความสำคัญกันมาก คือ หลอดเลือดหัวใจตีบ หรือ อุดตันเฉียบพลัน เนื่องจากเป็นชนิดที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งกลุ่มคนที่เข้าข่ายเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจนั้นก็จะเป็นคนในกลุ่มที่มีระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดสูง คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง คนที่เป็นโรคเบาหวาน คนที่สูบบุหรี่ คนที่มีภาวะอ้วน และคนที่มีบุคคลในครอบครัวเป็นโรคหัวใจอยู่แล้วนั่นเอง

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือโรคหัวใจขาดเลือดนั้น ถือเป็นโรคที่น่ากลัวอีกโรคหนึ่งในบ้านเราก็ว่าได้ เพราะเป็นโรคที่เป็นสาเหตุของการตายอันดับต้นๆ และส่วนใหญ่คนไข้ที่เสียชีวิตจะเกิดจากการตีบตันของหลอดเลือดแดง ซึ่งเป็นผลมาจากผนังหลอดเลือดแข็งตัวเนื่องจากมีไขมันไปเกาะ ทำให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่พอ ส่งผลให้คนไข้รู้สึกแน่นตรงกลางหน้าอกเหมือนมีอะไรมากดทับ เจ็บร้าวมาที่ไหล่ซ้าย คอ ใต้คาง แขน อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้แรงมากหรือมีอารมณ์โกรธ ตื่นเต้นมากเกินไป และหากอาการรุนแรงจนพบแพทย์ไม่ทันอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทันที

การรักษา

ในปัจจุบัน แพทย์จะเริ่มต้นด้วยการซักประวัติคนไข้ก่อน แล้วจึงเริ่มด้วยการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเพื่อดูว่าหัวใจเต้นผิดปกติหรือไม่ มีหัวใจขาดเลือดหรือกล้ามเนื้อหัวใจตายหรือไม่ และการตรวจหาเอนไซม์หัวใจ เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงพิจารณาหาแนวทางรักษา ไม่ว่าจะเป็นการให้ยามารับประทาน การทำบัลลูนเพื่อขยายหลอดเลือดหัวใจ (Angioplasty) และ การผ่าตัดทำทางเบี่ยง (Bypass) หรือที่เรามักเรียกกันว่า “ผ่าตัดบายพาส”

ในการผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดหัวใจนั้น แพทย์หัวใจจะเลือกใช้หลอดเลือดดำจากบริเวณด้านในของขาข้างใดข้างหนึ่งนำมาทำบายพาสหลอดเลือดหัวใจ ที่เลือกเส้นเลือดดำที่ขาเพราะเป็นเส้นเลือดดำที่มีขนาดใหญ่ ทำให้เลาะได้ง่าย แต่หากจะใช้หลอดเลือดแดงก็สามารถใช้ได้ โดยแพทย์จะเลือกใช้หลอดเลือดแดงจากด้านในของหน้าอก และจากแขน ซึ่งหากพิจารณาผลดีในระยะยาวของการนำหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำมาใช้ทำบายพาสหลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดแดงจะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าแถมอัตราการกลับมาตีบซ้ำของหลอดเลือดแดงก็ยังน้อยกว่าหลอดเลือดดำด้วย ทั้งนี้แพทย์หัวใจจะเลือกใช้หลอดเลือดแบบไหนคงจะต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ซึ่งจะพิจารณาให้เหมาะสมกับคนไข้เป็นราย ๆ ไป

หลังผ่าตัดคนไข้ควรรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ และดูแลความสะอาดของแผลผ่าตัดให้ดี อาบน้ำอุ่นทุกวัน ใส่ยาฆ่าเชื้อที่แผลหลังอาบน้ำ ห้ามนำไหมหรือผ้าออกจากแผลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากแพทย์ ห้ามขัดหรือถูบริเวณแผล ห้ามใส่โลชั่นหรือแป้ง และห้ามไม่ให้แผลเจอแสงแดด

หลังจากแผลหายสนิทแล้วคนไข้เองควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงทำให้หัวใจเสื่อมเร็ว ไม่ว่าจะเป็น หยุดสูบบุหรี่ งดอาหารจำพวกไขมันและเครื่องดื่มที่จะทำให้เกิดความดันโลหิตสูง หมั่นไปตรวจสุขภาพร่างกายอยู่เสมอ วัดความดัน ตรวจระดับน้ำตาล และไขมัน เพื่อสุขภาพของตัวคุณเองในระยะยาว ดีกว่าต้องมาเสี่ยงกับอาการต่างๆ ของโรคหัวใจและการรักษาในภายหลัง

ค่ารักษา

เพิ่มเติม
การรักษา ราคา(บาท)
การฉีดสีสวนหัวใจ ทางข้อมือ (Radial) 40,000 บาท
การฉีดสีตรวจหลอดเลือดหัวใจและขยายหลอดเลือด ทางข้อมือ (ไม่รวม Stent) 135,000 บาท
การจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยเครื่อง 2D 250,000 บาท
การจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยเครื่อง 3D 350,000 บาท
อัตราค่ารักษาพยาบาล แพทย์ที่ทำการรักษาเป็นผู้ประเมิน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 1723
การรักษา
การฉีดสีสวนหัวใจ ทางข้อมือ (Radial)
40,000 บาท
การฉีดสีตรวจหลอดเลือดหัวใจและขยายหลอดเลือด ทางข้อมือ (ไม่รวม Stent)
135,000 บาท
การจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยเครื่อง 2D
250,000 บาท
การจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยเครื่อง 3D
350,000 บาท
อัตราค่ารักษาพยาบาล แพทย์ที่ทำการรักษาเป็นผู้ประเมิน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 1723

หัตถการของศูนย์หัวใจ

เกร็ดความรู้

เพิ่มเติม