การใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่เป็นโรคอ้วน หรือผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพื่อให้ได้รูปร่างที่สวยงามสมส่วน ซึ่งการลดน้ำหนักด้วยวิธีใส่บอลลูนนั้น จะช่วยให้อิ่มเร็วขึ้น รับประทานอาหารได้น้อยลง เนื่องจากพื้นที่ภายในกระเพาะอาหารลดลง นอกจากนี้ ยังมีการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการใช้ชีวิตร่วมด้วย ซึ่งนอกจากน้ำหนักที่ลดลงแล้ว สุขภาพของผู้เข้ารับการใส่บอลลูนก็จะดีขึ้นด้วย
การใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร เป็นการลดน้ำหนักชนิดหนึ่งที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยา โดยการส่องกล้องใส่บอลลูนเข้าไปในกระเพาะอาหารคล้ายกับการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารทั่วไป ภายในบอลลูนจะใส่น้ำเกลือผสมกับสารสีฟ้าที่เรียกว่าเมทิลีนบลู (Methylene Blue) ในปริมาตร 400 ถึง 500 ซีซี เพื่อลดพื้นที่ในกระเพาะอาหาร ทำให้ผู้เข้ารับการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารรู้สึกอิ่มตลอดเวลา และรับประทานอาหารได้ลดลงกว่าเดิม โดยบอลลูนสามารถปรับเพิ่มหรือลดขนาดได้ภายหลัง แต่หากผู้เข้ารับการใส่บอลลูนพอใจกับน้ำหนักที่ลดลงแล้ว ก็สามารถนำบอลลูกออกก่อนครบ 1 ปีได้
สำหรับผู้ที่เหมาะกับการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร จะคำนวณจากค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index หรือ BMI) ซึ่งผู้ที่เหมาะสมจะต้องมีค่า BMI 27 ขึ้นไป หรือผู้ที่เป็นโรคอ้วนและผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก โดยวิธีการคำนวณหาค่า BMI มีดังนี้
สำหรับผู้ที่ไม่เหมาะกับการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร ได้แก่
ก่อนเข้ารับการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร ผู้เข้ารับการใส่บอลลูนจะต้องมีสภาพร่างกายที่พร้อม โดยแพทย์จะตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) และตรวจเลือดเบื้องต้น (Lab Pre Operation) ส่องกล้องเพื่อดูความพร้อมของหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร เพื่อประเมินความเสี่ยงของโรคประจำตัว ซึ่งต้องอยู่ในเกณฑ์ปกติจึงจะสามารถใส่บอลลูนได้
ผู้เข้ารับการใส่บอลลูนต้องรับประทานยาลดกรด Miracid (Omeprazole) ก่อนอาหารเช้าและเย็น เป็นเวลา 14 วัน
งดสูบบุหรี่ ดื่มสุรา ของหมักดอง
หลังการรักษา ผู้เข้ารับการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารจะมีอาการปวดท้อง แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ร่วมด้วย ซึ่งจะเป็นมากภายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์แรก ซึ่งจำเป็นต้องรับประทานยาลดกรดและยากันอาเจียนควบคู่กันไปด้วย เพื่อป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ อาจมีผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้แต่น้อยมาก เช่น เลือดออกจากแผลในกระเพาะอาหาร อาเจียนมากจนกระทั่งหลอดอาหารหรือกระเพราะอาหารปริ ลำไส้อุดตัน เป็นต้น
ดังนั้น การที่น้ำหนักลดลงเร็วเกินไปจึงไม่เป็นผลดี ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ และเมื่อใส่บอลลูนครบ 1 ปีแล้ว แพทย์จะปล่อยน้ำในบอลลูนออกและส่องกล้องเพื่อนำบอลลูนออกจากกระเพาะอาหาร
อาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้เข้ารับการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารต้องใส่ใจ เพราะการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การควบคุมชนิดและปริมาณอาหารหลังการใส่บอลลูน จะช่วยให้ปรับตัวได้ง่ายขึ้น รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น และส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก ทำให้ผู้เข้ารับการใส่บอลลูนประสบกับความสำเร็จดังเป้าหมายที่ได้ตั้งใจไว้ โดยอาหารสำหรับผู้เข้ารับการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร มีดังนี้
วันที่ 1 – 7 | วันที่ 8 – 14 | วันที่ 14 – 21 | ตั้งแต่วันที่ 21 เป็นต้นไป |
วันแรก จิบน้ำเปล่า ชั่วโมงละ ¼ ของแก้ว | รับประทานนม/โยเกิร์ต/น้ำผัก/ผลไม้ปั่น/มันฝรั่งบด | รับประทานขนมปัง/ก๋วยเตี๋ยว/ข้าวสวยนิ่มๆ | สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ |
วันที่ 2 ดื่มน้ำผลไม้ รับประทานซุปใส | เริ่มรับประทานปลา/ไก่บด(ไม่ติดหนัง) แต่สามารถรับประทานได้หลังจาก 8 วันไปแล้ว | เนื้อสัตว์บดสับละเอียด | |
วันที่ 3 เป็นต้นไป ให้รับประทานอาหารเหลว เช่น น้ำผลไม้ นม โยเกิร์ต สามารถดื่มชา/กาแฟได้ | เริ่มรับประทานไข่ได้หลังจาก 11 วันไปแล้ว | ผัก/ผลไม้บดละเอียด(เอาเมล็ดออก) |
วัน/มื้ออาหาร | มื้อเช้า | มื้อกลางวัน | มื้อเย็น |
วันจันทร์ | โจ๊กหมูใส่ไข่ | สลัดปลาแซลมอลย่าง ซอสพริกไทยดำ | เกาเหลาราดหน้าผักรวมอกไก่ |
วันอังคาร | ซีเรียล+นมขาดมันเนย | ข้าวไรซ์เบอร์รี่+แกงส้มมะละกอกุ้ง | สลัดผักนัวไข่ต้ม |
วันพุธ | ข้าวต้มปลา | อกไก่ย่าง+ผักเห็ด 3 อย่าง | สุกี้น้ำหมู |
วันพฤหัสบดี | โยเกิร์ตไขมัน 0% ผลไม้รวม | ข้าวไรซ์เบอร์รี่+ไข่พะโล้หมูตุ๋น | ซีซ่าร์สลัด |
วันศุกร์ | ข้าวต้มไรซ์เบอร์รี่+ผัดเต้าหู้ทรงเครื่อง | สปาเก็ตตี้ทะเลผัดแห้ง | ลุยสวนไก่สับ |
วันเสาร์ | แซนวิชโฮลวิตไส้ทูน่า+กาแฟดำ | ข้าวไรซ์เบอร์รี่+แกงจืดสาหร่ายหมูสับ (ต้มเลือดหมู) | แรตแทตทุย |
วันอาทิตย์ | กราโนล่าข้าวโอ๊ตน้ำผึ้ง | ไก่ม้วนไส้แครอทแตงกวาหน่อไม้ฝรั่งราดน้ำสลัดงา | สลัดอโวคาโด้กุ้ง |
การใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนักนั้นเป็นวิธีที่มีมานาน และได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ เมื่อใส่บอลลูนครบ 1 ปีแล้ว ผู้เข้ารับการใส่บอลลูนจะสังเกตได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น น้ำหนักตัวลดลง รูปร่างดีขึ้น รวมทั้งมีสุขภาพที่ดีขึ้น การใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่เป็นโรคอ้วนหรือคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ทั้งนี้ ควรทำโรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารและทีมงานที่เชี่ยวชาญนะคะ
การใส่บอลลูนกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก (Gastric Balloon) ชนิด 6 เดือน
พัก 2 คืน
120,000 บาท
การใส่บอลลูนกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก (Gastric Balloon) ชนิด 1 ปี
พัก 1 คืน
180,000 บาท